กรุงเทพฯ 1 พ.ย. – อธิบดีกรมชลประทานสั่งเร่งพร่องน้ำระบบชลประทานเมืองชุมพร รองรับปริมาณน้ำฝนหากตกหนักในพื้นที่ โดยเฉพาะคลองหัววัง-พนังตัก หนึ่งในโครงการพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เคยช่วยเมืองชุมพรรอดพ้นจากน้ำท่วมมาแล้วหลายครั้ง
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ช่วงวันที่ 1 – 5 พฤศจิกายน 2560 จึงสั่งการให้โครงการชลประทานเริ่มพร่องน้ำในคลองต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2560 เริ่มจากคลองท่าแซะ ซึ่งอยู่ส่วนเหนือสุดของโครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพรตามแนวพระราชดำริ ปัจจุบันระดับต่ำกว่าตลิ่ง 5 เมตร สามารถรองรับน้ำได้อีก 3.35 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของปริมาตรเก็บกัก เชื่อมต่อไปยังคลองท่าตะเภา คลองสามแก้ว และคลองหัววัง-พนักตัก และยังเปิดประตูระบายน้ำทุกแห่งเพื่อลดปริมาณน้ำในคลองระบายทั้งระบบ ส่วนแก้มลิงหนองใหญ่ ซึ่งเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่อยู่ติดกับคลองหัววัง – พนังตัก เป็นแก้มลิงธรรมชาติสำหรับพักน้ำก่อนระบายน้ำลงสู่คลองหัววัง – พนังตัก ให้ไหลออกทะเลโดยไม่ต้องผ่านตัวเมืองชุมพรนั้น มีความจุ 3.121 ล้าน ลบ.ม.ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 1.415 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 54.65 กำลังพร่องน้ำให้เหลือเพียงร้อยละ 30 ซึ่งจะสามารถรับน้ำได้อีก 1.706 ล้าน ลบ.ม.
นอกจากนี้ ได้นำเครื่องจักร เครื่องมือต่าง ๆ มาเตรียมไว้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ได้แก่ โป๊ะสำหรับบรรทุกรถขุดในการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำในคลองท่าตะเภา เครื่องสูบน้ำขนาด 16 นิ้ว จำนวน 20 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 10 เครื่อง รถแบ็คโฮ 4 คัน กระสอบทราย 5,000 กระสอบ ขณะที่ชลประทานพื้นที่แจ้งเตือนผู้แทนผู้เลี้ยงปลา ผู้ประกอบอาชีพประมงท้ายประตูระบายน้ำต่าง ๆ เพื่อเฝ้าระวังปริมาณน้ำก่อนจะเกิดผลกระทบต่อปลาที่เลี้ยงไว้ หากคาดว่าจะมีน้ำล้นตลิ่ง หรือน้ำท่วมขังในพื้นที่ โครงการชลประทานชุมพร จะแจ้งเตือนกองอำนวยการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดชุมพร ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรเป็นประธานให้แจ้งเตือนประชาชนทันที.-สำนักข่าวไทย