คุม 2 คนร้ายชิงทรัพย์เหยื่อบนสะพานลอยทำแผนฯ

กรุงเทพฯ 31 ต.ค.- ตำรวจคุม 2 คนร้ายชิงทรัพย์เหยื่อบนสะพานลอยทำแผนฯ รับสารภาพรู้จักกันในคุก ก่อนออกมาจับมือร่วมตระเวนก่อเหตุในหลายพื้นที่




พลตำรวจตรีสมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยตำรวจ สน.บางเขน คุมตัวนายบารมี เพียงทรัพย์ อายุ 25 ปี และนายณภัทรพล กลั่นทัต อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนบริเวณสะพานลอยหน้าพรรคภูมิใจไทย ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยมีผู้เสียหายร่วมชมการทำแผนด้วย 

ผู้เสียหายเล่าว่า ในคืนวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนเองเดินไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น ก่อนจะข้ามสะพานลอยกลับมา ระหว่างนั้นหยุดคุยกับเพื่อนกลางสะพานลอย จู่ๆ มีคนร้าย 2 คน เข้ามาประชิดตัว ก่อนจะลากตัวมา บริเวณเชิงทางลงสะพานลอย และค้นตัวเอาโทรศัพท์มือถือไป ตนเองจึงต่อรองให้เอาบัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน เพื่อให้กล้องวงจรปิดตู้เอทีเอ็มจับภาพคนร้ายไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งหลังคนร้ายนำบัตรไปกดเงิน แต่กดไม่ได้ เนื่องจากตนเองบอกรหัสผิด คนร้ายจึงโมโห ก่อนจะขโมยโทรศัพท์ ก่อนหลบหนีไป ตนเองจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ


จากการสืบสวนของตำรวจพบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ครั้งนี้ เป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ตลาดอมรพันธ์ ถนนพหลโยธิน ในคืนเดียวกัน ได้สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และเหตุชิงทรัพย์ที่บริเวณทางเดินปากซอยพหลโยธิน 51 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยตำรวจติดตามจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้องเช่าย่านตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี สามารถยึดของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน มีปลายแหลมความยาวรวม 25 เซนติเมตร และมีดพับความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร พร้อมเสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่ในวันเกิดเหตุ

สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า เคยก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่ และจะตระเวนเปิดห้องเช่าในพื้นที่ใกล้เคียงกับจุดที่จะลงมือก่อเหตุ จากนั้นก็จะย้ายที่ไปเรื่อยๆ โดยทั้งสองคนยอมรับว่าเคยถูกจำคุกคดีเกี่ยวกับทรัพย์และคดียาเสพติดมาแล้ว และไปรู้จักกันในเรือนจำ เมื่อพ้นโทษออกมาจึงมาร่วมกันก่อเหตุ

พลตำรวจตรีสมพงษ์ ฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้เสียหายรายใดที่เคยถูกผู้ต้องหาทั้งสองคนชิงทรัพย์สามารถเข้าชี้ตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.บางเขน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง