สนามหลวง 21 ต.ค.-สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งเป็นการซ้อมใหญ่เสมือนจริง โดยมีผู้ร่วมซ้อมมากกว่า 4,000 คน ขณะที่ประชาชนจำนวนมากชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ งดงามสมพระเกียรติ และยังคงปักหลักกรอชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ในวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ต.ค.) เวลา 06.55 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ 1 , 2 และ 3 ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นการส่วนพระองค์ ซึ่งวันนี้ (21 ต.ค.) เป็นการซ้อมใหญ่เสมือนจริง ณ พื้นที่จริง เวลาตามหมายกำหนดการจริง มีสมาชิกราชสกุลมหาสาขาต่าง ๆ คณะรัฐมนตรี ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ข้าราชบริพาร ผู้แทนองค์กร มูลนิธิ และโรงเรียนต่าง ๆ ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมซ้อม มากกว่า 4,000 คน
โดยริ้วขบวนที่ 1 เป็นการเดินปกติตามจังหวะกลอง ระยะทาง 817 เมตร เชิญพระโกศทองใหญ่โดยพระยานมาศสามลำคาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ผ่านประตูศรีสุนทร และประตูเทวาภิรมย์ ใช้เส้นทางถนนมหาราช ถนนท้ายวัง ถนนสนามไชย ที่หน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน เชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชัยราชรถ
ริ้วขบวนที่ 2 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระดำเนินตามพระมหาพิชัยราชรถ เป็นการเดินเปลี่ยนเท้าประกอบเพลงพญาโศก ยาตราขบวนแห่เชิญพระโกศทองใหญ่ จากถนนสนามไชย เข้าสู่ถนนราชดำเนินใน ผ่านหน้ากระทรวงกลาโหม ศาลหลักเมือง ศาลฎีกา แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าท้องสนามหลวง รวมระยะทาง 890 เมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยทันทีที่ประชาชนเห็นพระมหาพิชัยราชรถเคลื่อนมา ต่างกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
ริ้วขบวนที่ 3 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เจ้าพนักงานเชิญพระโกศทองใหญ่ลงจากพระมหาพิชัยราชรถ ไปประดิษฐานบนราชรถปืนใหญ่ เวียนรอบพระเมรุมาศ โดยอุตราวัฏ หรือเวียนซ้าย 3 รอบ เป็นการเดินปกติตามจังหวะกลอง รวมระยะทาง 890 เมตร รวมระยะเวลาที่ทรงซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศในวันนี้ เป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมง ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว
ทั้งนี้ มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมารอที่จุดคัดกรองต่าง ๆ 9 จุด เพื่อเข้าชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ โดยประชาชนปักหลักรอตั้งแต่เมื่อวานนี้ (20 ต.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 05.00 น. เช่นที่จุดคัดกรองบริเวณแยกสะพานช้างโรงสีเป็นจุดที่อยู่ใกล้เคียงกับพระบรมมหาราชวัง และเห็นรายละเอียดของริ้วบขบวนได้ชัดเจน ประชาชนตั้งแถวยาวสองเส้นทาง ทั้งจากแยกช้างโรงสี ยาวไปบรรจบกับโรงแรมรัตนโกสินทร์ และอีกฝั่งหนึ่งยาวไปจนถึงแยกเสาชิงช้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น. ได้มีการแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าจุดคัดกรองบริเวณแยกสะพานช้างโรงสีไม่สามารถรองรับประชาชนได้แล้ว เนื่องจากมีประชาชนเต็มพื้นที่แม้จะพยายามลำเลียงคนไปยังจุดคัดกรองใกล้เคียง บริเวณแยก รด. แต่สุดท้ายต้องระงับแถวไม่ให้ประชาชนเข้าไป หลายคนที่ไม่สามารถเข้าไปชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศในวันนี้ (21 ต.ค.) ต่างบันทึกภาพประวัติศาสตร์นอกรั้วจุดคัดกรองเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำและเดินทางกลับ ขณะที่ประชาชนบางส่วนจะปักหลักรอชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ในวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.) ที่จะมีอีก 1 วัน
ทั้งนี้ประชาชนที่มารอชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ บางส่วนมารอตั้งแต่เมื่อค่ำวานนี้ (20 ต.ค.) ต่างบอกว่าแม้ต้องใช้เวลารอนาน แต่ก็ภูมิใจที่ได้ร่วมชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศอย่างใกล้ชิด ขณะที่จิตอาสายังคงทำหน้าที่บริการอาหารและเครื่องดื่มให้กับประชาชนที่มารอตั้งแต่เช้ามืด โดยไม่เหน็ดเหนื่อย เพราะรู้สึกภูมิใจที่มีโอกาสได้ทำความดีถวาย
ขณะที่บรรยากาศที่จุดคัดกรองพระแม่ธรณีบีบมวยผม เจ้าหน้าที่จิตอาสายังคงอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนตลอดทั้งวัน ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่จิตอาสาที่บริเวณจุดจอดรถกองสลากเก่า เพื่อทำหน้าที่ในวันนี้อย่างดีที่สุด
ขณะเดียวกัน หน่วยแพทย์และพยาบาลยังคงตั้งจุดให้บริการประชาชนรอบบริเวณพระบรมมหาราชวังและท้องสนามหลวง โดยบริเวณจุดจอดรถกองสลากเก่า ได้ตั้งเต้นท์จุดบริการทางการแพทย์เพิ่มอีก 1 จุดในวันนี้เป็นวันแรก โดย นพ.เหลือพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการผู้จัดการศิริราชมูลนิธิ เปิดเผยว่า จะเปิดให้บริการประชาชนจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2560 ซึ่งภายในเต้นท์ มีบุคลากรทางการแพทย์ให้บริการวันละ 150 คน โดยมีเครื่องมือทางการแพทย์ครบครัน สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ป่วยที่มีอาการเป็นลมจนถึงอาการหัวใจหยุดเต้นได้ และในวันนี้ จุดบริการทางการแพทย์จะให้บริการจนถึงเวลา 20.00 น. แต่ในช่วงที่มีพระราชพิธีฯ จะตั้งเต้นท์เพื่อให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ แพทย์และพยาบาลได้ฝากคำแนะนำถึงประชาชนที่มีโรคประจำตัวว่าให้นำยาสามัญประจำบ้าน รวมทั้งน้ำดื่มติดตัวมาด้วย แต่หากมีอาการป่วย หรือจะเป็นลม สามารถแจ้งจิตอาสาให้พามาพบแพทย์ เพื่อให้การช่วยเหลือได้
ขณะที่นางสุภัชชา น้อยเจริญ และ น.ส.วรัญญา เมืองสุวรรณ ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ เดินทางออกจากจังหวัดเพชรบูรณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา และมารอที่จุดคัดกรองตั้งแต่เวลา 03.00 น. พร้อมเปิดเผยความรู้สึกว่า รู้สึกปลาบปลื้มที่ครั้งหนึ่งได้เป็นส่วนหนึ่งได้เข้าชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ และมุ่งมั่นตั้งใจจะทำความดี พร้อมสอนลูกหลานให้ดำเนินรอยตามพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9
ด้านนางปราณี ศิริวรรณ เดินทางมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มารอเข้าแถวตั้งแต่เวลา 02.00 น. บอกว่า แม้จะเดินทางมาชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศแล้วเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่าน แต่ก็ตั้งใจว่าจะมาชมการซ้อมริ้วขบวนให้ได้มากที่สุด ด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และไม่แน่ใจว่าในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ วันที่ 26 ตุลาคมนี้ จะมีโอกาสได้เข้ามาในพื้นที่อย่างใกล้ชิดแบบนี้หรือไม่
ด้านศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่มารอเข้าแถวตั้งแต่เวลา 03.00 น. โดยตั้งใจจะมาชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทย และรู้สึกประทับใจที่เห็นทุกคนมาด้วยความตั้งใจ บางคนมาตั้งแต่ช่วงค่ำ ซึ่งเข้าใจว่าต้องการเป็นส่วนหนึ่งของวันนี้ (21 ต.ค.) ถึงแม้จะเป็นการซ้อม แต่ก็เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่ประชาชนจะได้ใช้วันเวลาร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง
ขณะที่ นางดิสพร ศิริวรรณ ชาวกรุงเทพมหานคร ออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 01.00 น. ตั้งใจมาชมการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ และยังถือเป็นการทดสอบร่างกายว่ามีความพร้อมแค่ไหน เพราะตั้งใจจะเดินทางมาร่วมงานพระราชพิธีสำคัญในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ด้วย ส่วนตัวได้เตรียมความพร้อมของร่างกายด้วยการออกกำลังกายทุกวัน ทั้งนี้รู้สึกโชคดีที่ได้เกิดเป็นคนไทยและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 หากจะให้พูดถึงความภาคภูมิใจคงพูดวันเดียวไม่หมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้จัดสรรให้ประชาชนส่วนหนึ่งที่ต่อแถวในจุดคัดกรองพระแม่ธรณีบีบมวยผมไปยังจุดคัดกรองฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ เพื่อระบายคนและให้ทุกคนได้เข้าชมขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เนื่องจากจุดคัดกรองพระแม่ธรณีบีบมวยผมมีประชาชนต่อแถวหนาแน่นยาวไปจนถึงสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน.-สำนักข่าวไทย
