เปิดใจ 4 นร.สาวฮีโร่เสี่ยงชีวิตคนเจ็บรถตกคลอง

กระบี่ 11 ต.ค.-เปิดใจ 4 สาวฮีโร่นักศึกษาวิชาทหารชั้น ม.5 เสี่ยงชีวิตช่วยรถประสบอุบัติเหตุ เผยต้องการช่วยคนเจ็บ ด้าน ผบ.มทบ.43 เตรียมมอบประกาศเกียรติคุณยกย่องที่เสียสละ


จากกรณีอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักแหกโค้งพลิกคว่ำบริเวณถนนสายคลองท่อม-ลำทับ ม.2 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เป็นเหตุให้รถตกลงไปในคลองและจมน้ำกว่าครึ่งคัน โดยที่คนขับติดอยู่ในรถไม่สามารถออกมาได้ ก่อนจะมีนักศึกษาวิชาทหารซึ่งเป็นหญิงสาว 4 คน ขับรถผ่านมา ซึ่งประกอบด้วย น.ส.ปทิตา หนูทอง เรียนชั้น ม.5 โรงเรียนคลองท่อมราษฎร์รังสรรค์ น.ส.ชฎาพร ปลอดภัย เรียนชั้น ม.5 โรงเรียนคลองท่อมราษฎร์รังสรรค์ น.ส.นิตยา สายสินธ์ เรียนชั้น ม.5 โรงเรียนลำทับประชานุเคราะห์ และ น.ส.ผกาวรรณ พงษ์ทองเมือง นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนลำทับประชานุเคราะห์ เสี่ยงชีวิตเข้าช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย 


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยกระบี่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พบว่าฮีโร่สาวทั้ง 4 คนกำลังฝึกวิชาทหารพร้อมเพื่อนนักศึกษาทั้งชายและหญิงจำนวนนับพันคน  บริเวณสนามหน้าโรงเรียน โดยมีร้อยบุญส่ง ทองมาก ครูฝึกประจำหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 43 (ทุ่งสง) ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร คอยควบคุมดูแลการฝึก ได้เรียกนักศึกษาสาวทั้ง 4 คน ออกมายืนหน้าแถว พร้อมประกาศเรื่องราวให้เพื่อนนักศึกษาวิชาทหารได้รับทราบที่เสียสละโดยไม่คิดชีวิตเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุจนปลอดภัย ท่ามกลางประชาชนที่เฝ้าดูเหตุการณ์ด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่ทั้งสี่คนมีสติและนำความรู้ที่ได้รับการฝึกฝนเข้าไปช่วยผู้ประสบเหตุได้อย่างปลอดภัย จนได้รับการยกย่องชื่นชมจากพี่น้องประชาชน สร้างความภาคภูมิใจแก่ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์  และกล่าวว่าวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันไหว้ครูของนักศึกษาวิชาทหาร พล.ต.ทวี  เกิดสมบูรณ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 43 จะเดินทางมามอบประกาศเกียรติคุณแก่นักศึกษาทั้ง 4 คนด้วยตัวเอง


ขณะที่นักศึกษาทั้ง 4 คน เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ขณะที่นั่งรถมากับเพื่อนเพื่อเดินทางมาเรียนวิชาทหารได้เจอกับรถเก๋งประสบเหตุตกคลองและกำลังจะจมน้ำ ระหว่างนั้นมีชาวบ้านยืนมุงดูอยู่จำนวนมาก แต่ไม่มีใครกล้าลงไปช่วยเนื่องจากคิดว่ามีผู้เสียชีวิตติดในรถ จึงได้ชวนกันหยุดรถก่อนที่จะเดินลุยโคลนลงไปช่วยเหลือ โดยรีบเปิดประตูรถออกมา และช่วยดึงคนเจ็บออกมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งนาทีนั้นคิดเพียงว่าต้องช่วยชีวิตคนเจ็บออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง