กรุงเทพฯ 11 ต.ค. – กฟผ.เร่งปรับแผนการผลิตไฟฟ้าพื้นที่ภาคใต้ หลังแหล่ง JDA-A18 เกิดเหตุขัดข้องหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นายอดุลย์ พิทักษ์ชาติวงศ์ รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ได้รับแจ้งจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ว่า แหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) เกิดเหตุขัดข้องหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ เบื้องต้น กฟผ.เร่งประสานกับ ปตท. คาดว่าจะสามารถแก้ไขกลับมาจ่ายก๊าซธรรมชาติให้กับโรงไฟฟ้าจะนะได้เวลาประมาณ 04.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (12 ต.ค.)
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ต้องเร่งปรับแผนการผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดประมาณ 2,450 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าจะนะ เครื่องที่ 1 จะเปลี่ยนไปใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงและซื้อไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซียประมาณ 100 เมกะวัตต์ มาเสริมระบบในช่วงค่ำเวลาประมาณ 18.30-20.30 น. พร้อมทั้งเตรียมส่งไฟฟ้าจากภาคกลางไปเสริมระบบอีกส่วนหนึ่ง เพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้ไฟฟ้าของประชาชน ตลอดจนธุรกิจการท่องเที่ยว และธุรกิจอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคใต้
นายอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาเมื่อแหล่งจ่ายก๊าซฯ JDA-A18 เกิดเหตุขัดข้อง หรือหยุดซ่อมบำรุง ซึ่งตามแผนล่าสุดจะมีการหยุดซ่อมบำรุงระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2560 นั้น กฟผ. จะติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ตลอดจนมีแผนสำรองเตรียมพร้อมเข้าแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที
“กฟผ.เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ JDA-A18 ไว้ครบทุกด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคใต้ รวมทั้งเตรียมน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงสำรองและมีการส่งไฟฟ้าจากภาคกลาง หรือการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซีย รวมถึงรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชีวมวลในภาคใต้มาช่วยเสริมระบบบางส่วนด้วย อย่างไรก็ตาม จากความต้องการใช้ไฟฟ้าของภาคใต้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภาคใต้จึงควรมีแหล่งผลิตไฟฟ้าหลักเพิ่ม เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองและมีระบบไฟฟ้าที่มั่นคงต่อไป” รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย