กรุงเทพฯ 21 เม.ย.-ผู้ว่าการ กฟผ.เตือนวิกฤติไฟฟ้าใต้ ปี 63
เสี่ยงไฟตก ไฟดับเสนอรัฐเร่งแผนลดใช้ไฟฟ้า หลัง
รัฐบาลชะลอการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน สวนทาง รมว.พลังงาน ที่ ระบุไฟฟ้าใต้ 5 ปี
มีเพียงพอไม่จำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่
นายกรศิษฐ์ ภัคโชตานนท์
ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งสิ้นเดือนนี้
เตือนกระทรวงพลังงานจะต้องเร่งทำแผนประหยัดพลังงานในภาคใต้ อย่างเร่งด่วนจริงจัง ก่อนจะเปิดปัญหาวิกฤติไฟฟ้าในปี 2563
เนื่องจากการความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว
เช่น ภูเก็ต เติบโตในช่วง 2 ปี(2560-2561 )นี้ถึงร้อยละ 7.7
จังหวัดนครศรีธรรมราชเติบโตร้อยละ 10.9 ดังนั้นจึงคาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคใต้ปี
2563 จะมีไม่ต่ำกว่า 3,100 เมกะวัตต์ใน ขณะที่กำลังผล ขณะที่กำลังผลิตภาคใต้แม้มีประมาณ 2,788
เมกะวัตต์ แต่ผลิตได้จริง2,624 เมกะวัตต์
ในขณะที่โครงการก่อสร้างสายส่งจากภาคกลางลงใต้ก็ล่าช้าเพราะติดปัญหาสิ่งแวดล้อม
จะเสร็จพร้อมใช้ปี 2564 ส่วนโรงไฟฟ้าหลัก คือ โรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะสร้างทั้งกระบี่และเทพา ก็ถูกชะลอมาโดยตลอด
ส่วนการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 200-300 เมกะวัตต์
ก็ยังไม่สามารถจะเข้ามาช่วยระบบได้ หากรัฐบาลไม่มีแผนประหยัดพลังงานโดยขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง
ก็คาดจะเกิดผลกระทบต่อภาพรวม ทั้งภาคประชาชน การท่องเที่ยว การค้าและอุตสาหกรรม หากเกิดปัญหาไฟฟ้าขาดแคลน
“โครงการสายส่ง 500 เควีที่สร้างจากภาคกลางลงใต้ ที่ผ่านมาล่าช้า
เพราะติดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากเดิมกำหนดเสร็จปี 2562 ก็เลื่อนไปเป็นปี 2563 แต่จะใช้ได้สมบูรณ์ในปี
2564 โดยในภาคใต้ มีพีกในช่วงหัวค่ำ ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์)
ไม่สามารถเข้ามาทดแทนได้ และด้วยฝนกที่ตกมากในภาคใต้โซลาร์จึงดำเนินการไม่ได้
ทางที่เป็นไปได้ขณะนี้คือต้องเร่งแผนประหยัดไฟฟ้าให้เกิดขึ้นจริงไม่งั้นวิกฤติแน่ปี2563”
นายกรศิษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ ปี 2560
ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในภาคใต้ 2,624
เมกะวัตต์ ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ย
ร้อยละ 3.4 ต่อปี
โดยการใช้ภาคท่องเที่ยวและพาณิชย์เป็นอัตราสูงสุดถึงร้อยละ 36 บ้านร้อยละ
32 โรงงานร้อยละ 27 และอื่นๆร้อยละ 5 โดยปัจจุบันโรงไฟฟ้าที่ผลิตได้จริงมี 2,624
เมกะวัตต์ ประกอบไปด้วย การผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ รวม 2,024 เมกะวัตต์ได้แก่
โรงไฟฟ้าจะนะ ผลิตได้จริง 1,106 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าขนอม 918 เมกะวัตต์ ส่วนโรงฟ้าอื่นๆ ได้แก่ เขื่อน 108 เมกะวัตต์
ชีวมวล 29 เมกะวัตต์ ลม 3 เมกะวัตต์
ก่อนหน้านี้ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ระบุความต้องการใช้ไฟฟ้า
เมื่อเปรียบเทียบกับกำลังผลิตในภาคใต้
สามารถชะลอไม่ต้องก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ถึง 5 ปี จึงชะลอโรงไฟฟ้าถ่านหิน
และให้ศึกษาการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 300 เกมะวัตต์
แต่ด้วยปริมาณเชื้อเพลิงไม่เพียงพอ ผลการศึกษาล่าสุดจะสร้างได้ประมาณ 200-250
เมกะวัตต์เท่านั้น
ส่วนการศึกษาการก่อสร้างสายส่งเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาคอขวดจากโรงไฟฟ้าหลัก
ก็ยังติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม. -สำนักข่าวไทย