ทำเนียบฯ 11 ต.ค.-“พล.อ.ประวิตร” เผยที่ประชุม กพต.มีมติเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบใต้ ไม่ได้หารือเรื่องการพูดคุยสันติสุข ด้านเลขาธิการ ศอ.บต. ระบุจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่ปี 47-57 จำนวน 17 ราย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ว่า ที่ประชุม กพต.มีมติเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ โดยได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ จำนวน 17 ราย ส่วนการพูดคุยสันติสุข ไม่ได้หารือกัน ซึ่งประเด็นดังกล่าวมีคณะกรรมการในการดำเนินการอยู่แล้ว
ด้านนายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า เงื่อนไขที่คณะกรรมการฯ พิจารณาหลักเกณฑ์การเยียวยากรณี ประชาชนเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ หรือทุพพลภาพ จากการกระทำของเจ้าหน้าที่จากเหตุความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ ปี 2547-2557 จำนวน 17 ราย ซึ่ง ศอ.บต.ได้จ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นไปแล้ว รายละ 500,000 บาท และหลังจากผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการฯ จะจ่ายเงินเยียวยาเพิ่มอีกในกรณีเสียชีวิต ได้รับเพิ่มรายละ 1,000,000 บาท รวมเป็น 1,500,000 บาท และจะได้รับการช่วยเหลือบุตรในด้านการศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนจบมหาวิทยาลัยในระดับปริญญาตรี ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาธิการอีกประมาณ 600,000 บาทต่อคน รวมแล้วจะจ่ายเยียวยารายละ 2,000,000 บาท
“อย่างไรก็ตาม 1 ใน 17 ราย เป็นประชาชนที่ทุพลภาพตาบอดทั้งสองข้าง ได้รับการชดเชยเทียบเท่ากับผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ คณะกรรมการจะจ่ายเงินเยียวยาด้านอาชีพครอบครัวละไม่เกิน 50,000 บาท โดยหลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะเร่งดำเนินการรายละเอียด เงื่อนไขในการจ่ายเงินเยียวยา โดยเฉพาะกรณีส่งบุตรหลานเรียนจนจบการศึกษา ต้องมีเงื่อนไขว่าเงินที่ได้ต้องเป็นเงินที่ใช้เพื่อการศึกษาเท่านั้น คาดว่าเงินดังกล่าวจะสามารถจ่ายได้เดือนหน้าเป็นต้นไป พร้อมทั้งได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน เพื่อไม่ให้กระทบผู้บริสุทธิ์” นายศุภณัฐ กล่าว
เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวด้วยว่า จากการรายงานของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พบว่าการก่อเหตุในพื้นที่มีสถิติที่ลดลง ร้อยละ 60 ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากประชาชนมีความเข้าใจการทำงานมากขึ้น ขณะที่ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศมาเลเซียก็เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีความร่วมมือกันในหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันการก่อการร้ายสากล.-สำนักข่าวไทย