กทม.10 ต.ค.-ผู้ว่าฯกทม.ชี้แจงกรณีตัดต้นไม้ใหญ่ในป้อมมหากาฬ มีความจำเป็นเพราะเสี่ยงโค่นล้ม อาจเป็นอันตรายกับคนในชุมชน
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. โพสข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงถึงประเด็นการตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ภายในชุมชนป้อมมหากาฬ ว่า ในป้อมมหากาฬมีต้นไทรและต้นโพธิ์หลายต้น เมื่อกทม.เข้ามาพัฒนาพื้นที่ ก็ได้สำรวจลักษณะและความคงทนของต้นไม้ พบว่าต้นไม้เหล่านี้มีลักษณะของรากชอนไชบนผิวดิน ไม่มีรากแก้วที่จะยึดเหนี่ยวให้แข็งแรง ขณะที่ยังมีบ้านเรือนอีกหลายหลังในป้อมมหากาฬที่ยังไม่ได้ย้ายออกไป ก็กลัวว่าถ้าลมกระโชกแรงจะล้มทับบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่เห็นว่าถ้าไม่ตัดต้นไม้ อาจเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนได้ เพราะชุมชนภายในป้อมมหากาฬบางบ้านยังแอบขายพลุและดอกไม้ไฟ ถ้าต้นไม้ล้มผิดทางแล้วเกิดไปทับบ้านเหล่านั้นอาจเกิดระเบิด และไม่คุ้มกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น และในภาพจะเห็นว่าข้างในต้นไม้เป็นโพรง ซึ่งง่ายต่อการโค่นล้ม จึงมีความจำเป็นต้องตัด
ส่วนกรณีทำไมถึงไม่ล้อมไปปลูกที่อื่น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า การล้อมต้นไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่ป้อมมหากาฬเป็นไปได้ยาก เนื่องจากข้อจำกัดของซุ้มประตูของป้อมมหากาฬซึ่งเป็นโบราณสถานที่ได้รับการอนุรักษ์ เป็นเพียงช่องขนาดเล็ก รถเครนและรถบรรทุกขนาดใหญ่ ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ นอกจากนี้ กทม.ยังประสบกับปัญหารากต้นไทรและต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ที่อยู่ติดริมกำแพงป้อมมหากาฬจำนวน 5 ต้น ได้แผ่ขยายไปใต้กำแพงป้อมมหากาฬ หากปล่อยไว้จะส่งผลกระทบต่อกำแพงป้อม อย่างตอนนี้กำแพงป้อมมหากาฬด้านวัดเทพธิดารามกำลังจะทรุดตัวจากปัญหารากไม้ไชเข้าไปใต้กำแพงป้อม ซึ่งสำนักผังเมืองกทม.ก็พยายามจะหาทางแก้ไข โดยหาแนวทางอนุรักษ์กำแพงป้อมมหากาฬ และรักษาต้นไม้ไปพร้อมกัน ก็ต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำ สำนักผังเมืองจะเชิญกรมศิลปากรและกลุ่มบิ๊กทรี ลงพื้นที่และหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน
“ผมขอยืนยันครับว่า กทม.ให้ความสำคัญกับการเป็นเมืองสีเขียว และการสร้างพื้นที่สีเขียว เพื่อพี่น้องประชาชน เราจะไม่ตัดถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ หากพี่น้องประชาชน หรือผู้ที่มีความรู้จะร่วมเสนอแนะแนวทางการอนุรักษ์กำแพงป้อมมหากาฬและรักษาต้นไม้ ผมไม่ขัดข้องครับ ช่วยๆ กัน อยากให้ผู้มีความรู้นี่แหละครับช่วยแนะนำครับ” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย