กรุงเทพฯ 9 ต.ค.- ทายาทกลุ่มธุรกิจเครือโอเอ นำ รปภ.ของบริษัทร้องกองปราบช่วยสางคดีหลังบริษัทฯถูกเผาตั้งแต่ปี55และทำร้าย รปภ.จนพิการแต่คดีไม่คืบ อ้างหลานเขยนายพลตำรวจเป็นผู้บงการ
นางสาวสายทิพย์ โรจน์รุ่งรังษี อายุ 35 ปี ทายาทกลุ่มธุรกิจเครือโอเอ พร้อมนายอนุชิต ไทยทองงาม อดีตพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทภูเก็ตเฮลตี้หนูทรี่เม้นท์จำกัด จังหวัดภูเก็ต เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบปราม ขอให้เร่งรัดติดตามจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังก่อเหตุเผาบริษัทเมื่อปี 2555 และทำร้ายร่างกายนายอนุชิตจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและพิการจนถึงปัจจุบัน
นางสาวสายทิพย์ กล่าวว่า หลังจากบริษัทถูกเผาตำรวจท้องที่สามารถจับกุมคนร้ายได้และรับสารภาพว่าอดีตไกด์ชาวจีนคนหนึ่งซึ่งเป็นหลานเขยนายตำรวจใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่จนถึงขณะนี้คดีกลับไม่คืบ ไม่มีการจับกุมตัวผู้บงการตามที่ผู้ต้องหาซัดทอดแต่อย่างใด และหลังบริษัทถูกเผาครอบครัวของตนเองถูกข่มขู่คุกคามมาตลอดจนกระทั่งถูกดำเนินคดีฐานอั้งยี่และฟอกเงินแต่สุดท้ายศาลพิพากษายกฟ้อง จึงอยากร้องขอความเป็นธรรม ให้กองปราบปรามเร่งติดตามรวมถึงตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีที่บริษัทถูกเผาและขอร้องนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบริษัทในเครือของโอเอทั้งหมดอย่างละเอียด ซึ่งเชื่อว่าหากมีการตรวจสอบแบบตรงไปตรงมานายกรัฐมนตรีจะทราบความจริงทั้งหมด
นางสาวสายทิพย์ยังระบุอีกว่า สำหรับคดีที่พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่งสำนวนสั่งฟ้องบริษัทในเครือโอเอ กว่า 10 บริษัทขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา ยอมรับว่าธุรกิจของครอบครัวได้รับผลกระทบอย่างหนักทรัพย์สินทั้งรถยนต์และเงินสดในธนาคารถูกอายัดไว้ตรวจสอบจนไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ทำให้ธุรกิจของบริษัทโอเอและบริษัทในเครือเสียหาย .-สำนักข่าวไทย