กรุงเทพฯ 3 ต.ค.- รรท.ผบช.ทท.มอบนโยบายตำรวจในสังกัด หลังยกระดับเป็นกองบัญชาการ เน้นปราบปราม 10 กลุ่มที่ก่อปัญหากับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะทัวร์ศูนย์เหรียญ
พลตำรวจโทสาคร ทองมุณี รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นประธานประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ ทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา / สมาคมการท่องเที่ยว สมาคมมัคคุเทศก์ และหน่วยงานตำรวจที่ทำงานกับตำรวจท่องเที่ยว เพื่อหามาตรการ และแนวทางในการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและดูแลรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หลังมีการจัดตั้งเป็นกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
พลตำรวจโทสาคร กล่าวว่า ปัญหาในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ผ่านมาปัญหา ทัวร์ได้คุณภาพต่ำกว่าทุน มีการร้องเรียนเข้ามามากที่สุด ทำให้ นโยบายสำคัญอันดับแรกที่ต้องเร่งดำเนินการ คือการยกระดับการท่องเที่ยวให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ปราบปรามบริษัททัวร์ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะทัวร์ศูนย์เหรียญ พร้อมยอมรับว่า ในปัจจุบันยังมีทัวร์ที่ด้อยคุณภาพอยู่บ้าง โดยจะเร่งให้ตำรวจท่องเที่ยว ดำเนินการแก้ไขและสั่งห้ามกำลังพล ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการเรียกรับผลประโยชน์ หรือทำตัวเป็นผู้มีอทธิพล หากพบจะดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
พร้อมฝากไปถึงผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ร่วมมือกันทำการท่องเที่ยวไทยให้มีคุณภาพ. ปฎิบัติตามกฎหมาย และให้ความร่วมมือกับ เจ้าหน้าที่ ใน การเร่งดำเนินการปราบปราม 10 กลุ่มต้องห้าม อาทิ ทัวร์ด้อยคุณภาพ / หลอกลวงสินค้าและบริการ / ยานพาหนะเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว / สถานบริการผิดกฎหมาย มีจัดโชว์ลามก อนาจาร /ยาเสพติดในแหล่งท่องเที่ยว / อาชญากรรมข้ามชาติและลักลอบหลบหนีเข้าเมือง / อุบัติเหตุและมาตรฐานความปลอดภัยในกิจกรรมท่องเที่ยว / คดีอาชญากรรมที่สำคัญที่เกิดกับนักท่องเที่ยว / ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล มาเฟีย พกพาอาวุธบริเวณสถานที่ท่องเที่ยว และจัดระเบียบจราจร ไม่มีการเรียกเก็บค่าจอดรถ ตามแหล่งท่องเที่ยว แม้จะเป็นนโยบายเดิม แต่ต้องเพิ่มความเข้มงวดให้มากยิ่งขึ้น
ส่วนโครงสร้างกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ได้มีการยกระดับเป็นกองบัญชาการ ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อรองรับการขยายตัวการท่องเที่ยวในไทย โดยได้มีการเพิ่มกำลังพล จากเดิม 1,200 นาย เป็น 4,000 นาย มี 4 กองบังคับการ เชื่อว่ากำลังพลที่เพิ่มขึ้นมา จะสามารถดูแลพื้นที่ และท่องเที่ยว ทั่วประเทศให้ได้รับความสะดวกสบาย และมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน.-สำนักข่าวไทย