ความสำคัญของทุ่งพระเมรุ

กทม. 2 ต.ค. – ทุ่งพระเมรุ หรือท้องสนามหลวงในปัจจุบัน มีความเป็นมาตั้งแต่ครั้งก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ และมีความยิ่งใหญ่เคียงคู่กับราชวงศ์จักรี จะเป็นสถานที่สำคัญยิ่งทางประวัติศาสตร์อีกครั้งในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 


ท้องสนามหลวง หรือทุ่งพระเมรุ ใช้เป็นสถานที่ที่จัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพและพระศพหลายครั้ง กำเนิดขึ้นพร้อมกับการก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ทรงย้ายพระนครมาอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา พระองค์มีพระราชปณิธานที่จะสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ให้เป็นปึกแผ่นเกรียงไกรเช่นเดียวกับกรุงศรีอยุธยา และสืบทอดโบราณราชประเพณีอันยิ่งใหญ่ พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดขอบเขตพระบรมมหาราชวังขึ้น และเว้นพื้นที่ที่มีสัณฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูระหว่างพระบรมมหาราชวัง หรือวังหลวง กับพระราชวังบวรสถานมงคล หรือวังหน้า ไว้ เพื่อประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ของพระนคร รวมถึงเป็นพื้นที่สำหรับสร้างพระเมรุมาศสำหรับประกอบพระราชพิธีออกพระเมรุส่งเสด็จพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศ์ชั้นสูงคืนสู่สวรรคาลัย

พระเมรุมาศที่สร้างขึ้นครั้งแรกคือ พระเมรุมาศสำหรับประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมอัฐิสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเพื่อถวายพระเพลิงพระบรมอัฐิพระราชบิดา โดยถวายพระเกียรติยศเฉกเช่นการออกพระเมรุของพระเจ้าแผ่นดินเมื่อครั้งกรุงเก่า และได้มีการจัดงานพระศพเจ้านายสำคัญอีกหลายพระองค์นับแต่นั้น พื้นที่บริเวณนี้จึงเรียกกันว่า “ทุ่งพระเมรุ” สืบต่อมา และในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงเห็นว่าชื่อที่ผู้คนเรียกว่าทุ่งพระเมรุ นานๆ จะมีงานพระเมรุสักครั้ง เป็นชื่อที่ฟังดูไม่ดี จึงพระราชทานชื่อใหม่ว่า “ท้องสนามหลวง”


แม้จะมีประกาศให้เลิกเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าทุ่งพระเมรุมานานแล้วก็ตาม แต่หน้าที่ของสนามหลวงในความเป็น “ทุ่งพระเมรุ” ก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม โดยได้ใช้เป็นสถานที่ในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ในราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 8 ยกเว้นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ซึ่งเสด็จสวรรคตที่ประเทศอังกฤษ และได้จัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพที่ประเทศอังกฤษเช่นกัน รวมถึงพระบรมวงศ์ชั้นสูงอีกหลายพระองค์ . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง