สำนักข่าวไทย 30 ก.ย. – ศูนย์เอราวัณ กทม. คาดประชาชนร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ หนาแน่น แนะการปฏิบัติตัว ห่วง 2 จุดที่ประชาชนจะสามารถถวายดอกไม้จันทน์ที่พระเมรุมาศจำลอง และร่วมรับชมพระราชพิธีใกล้ชิด ได้แก่ สวนนาคราภิรมย์ และกองสลากเดิม เนื่องจากเป็นพื้นที่แคบ
นพ.พรเทพ แซ่เฮ้ง ผอ.ศูนย์เอราวัณ กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า ในระหว่างวันที่ 23-29 ตุลาคม 2560 ที่มีพระราชพิธีสำคัญนั้น ทีมแพทย์จากทุกหน่วยงาน ทั้งกระทรวงสาธารณสุข สำนักการแพทย์ สำนักอนามัย กทม. หน่วยแพทย์ 4 เหล่าทัพ รพ.กองทัพบก เรือ อากาศ ตำรวจ รพ.มหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์ รามาธิบดี ศิริราชพยาบาล วชิรพยาบาล และ รพ.ธรรมศาสตร์ สมาคม รพ.เอกชน แพทยสภา และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกตัญญู วางกำลังทีมแพทย์กระจายดูแล โดยจัดโซนพื้นที่ออกเป็นพื้นที่ภายในท้องสนามหลวง พระบรมมหาราชวัง กรมแพทย์หลวงรับผิดชอบดูแล, ริ้วขบวน กรมแพทย์ทหารบก รับผิดชอบดูแลร่วมกับโรงเรียนแพทย์
นพ.พรเทพ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่พระเมรุมาศจำลอง 4 ทิศรอบสนามหลวง ทั้งที่กองสลากเดิม สวนนาคราภิรมย์ สะพานพุทธ ลานคนเมือง และลานพระราชวังดุสิต ในจุดนี้คาดว่าพื้นที่ใกล้ท้องสนามหลวง คือ กองสลากเดิม และสวนนาคราภิรมย์ จะมีประชาชนหนาแน่นมากที่สุด และเป็นจุดที่ประชาชนสามารถมองเห็นและร่วมรับชมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพได้ใกล้ชิด จึงมีความห่วง เนื่องจากพื้นที่แคบ อาจทำให้ประชาชนเบียดเสียดกันมาก เตรียมจัดทีมแพทย์จากทุกหน่วยงาน ทั้งของกระทรวงสาธารณสุข กทม. แพทยสภา ร่วมดูแล ส่วนพื้นที่รอบนอกออกไปที่เหลือ ทั้งไบเทคบางนา สนามกีฬาธูปะเตมีย์ พุทธมณฑล จะมีทีมแพทย์คอยดูแลเช่นกัน และตามวัดใหญ่ต่างๆ รวม 113 จุด สำหรับประชาชนที่ต้องการเดินทางมาร่วมพระราชพิธี ขอให้เตรียมตัวให้ดี ทั้งการพักผ่อนให้เพียงพอ จัดเตรียมยาประจำตัวและของว่าง น้ำดื่มเผื่อไว้สำหรับแก้กระหาย หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน
สำหรับการดูแลประชาชนที่มากราบถวายบังคมพระบรมศพ หลังจากที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ขยายเวลาตลอด 24 ชั่วโมงไปจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม นพ.พรเทพ กล่าวว่า ทำให้ประชาชนคลายความกังวล ลดอัตราการเป็นลมจากการรอคิววันละ 400 คน เหลือเฉลี่ย 40-50 คน.-สำนักข่าวไทย