กทม. 29 ก.ย.- สคบ.ร่วมกับ บก.ปคม. และทันตแพทยสภา บุกค้นแหล่งผลิตเครื่องมือจัดฟันเถื่อนผิดกฎหมาย กลางกรุง ตรวจสอบพบผลิตและส่งต่อผ่านแอพลิเคชั่นไลน์และไปรษณีย์ ให้ผู้บริโภคจัดฟันเอง และส่งกลับแบบพิมพ์ฟันให้ มีเหยื่อหลงเชื่อร้องเรียนจำนวนมาก พร้อมพบแอบอ้างทันตแพทย์เกี่ยวข้อง อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้บังคับการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) พร้อมด้วยตำรวจ บก.ปคม. และทันตแพทยสภา ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านเลขที่ 19/21ใน ซ.สุขุมวิท 93 หลังได้รับข้อมูลร้องเรียน ลักลอบจัดทำเครื่องมือจัดฟันให้แก่ประชาชนทั่วไปทั้งผ่านแอพพลิเคชั่นและไปรษณีย์ ซึ่งระหว่างการนำหมายค้น ขอเข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พบว่า มีทั้งเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ เดินทางมาส่งพัสดุ รวมถึงมีพนักงานส่งเอกสาร ของแล็ปจัดฟันมาส่ง เจ้าหน้าที่จึงอายัดไว้เป็นหลักฐาน และจากการตรวจสอบภายในพัสดุที่จัดส่งพบมีทั้งเอกสาร การจัดฟันและอุปกรณ์จัดฟัน พิมพ์แบบฟันสำเร็จ มาส่งให้ที่บ้านหลังดังกล่าว
ทั้งนี้จากการเจรจาขอเข้าค้นใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงสำเร็จ โดย พบว่า ภายในบ้าน มีทั้งผงปูนแบบวุ้น สำหรับพิมพ์ฟัน อุปกรณ์จัดฟัน ทั้ง แบบพิมพ์บนและล่าง ยางและลวดจัดฟัน แบล็ตเก็ตจัดฟัน ซึ่งจากการรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เข้าข่ายผิดตาม ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2552 ฐานจำหน่ายลวดจัดฟันแฟชั่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 5แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบว่าเป็นผู้ผลิต ผู้สั่งหรือ นำเข้าก็ได้รับโทษ มีโทษจำคุก ไม่เกิน 10 ปีปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทันตแพทย์ประพัฒน์ ศานติวงษ์การ คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ทันตแพทยสภา กล่าวว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ สคบ .และบก.ปคม.พบว่ามีลักษณะคล้ายส่งผงปูนพิมพ์ฟันให้ผู้บริโภคมาดำเนินการพิมพ์ฟันเองที่บ้าน จากนั้นส่งไปรษณีย์กลับมาให้ทางแหล่งผลิต ดำเนินการ จัดทำแบบฟัน และผลิตรีเทนเนอร์ หรือลวดจัดฟันให้ ซึ่งตรงนี้ถือว่ามีอันตรายเพราะอะไรก็ตามที่เข้าไปอยู่ในช่องปากมีโอกาสเสี่ยงได้ รับอันตรายได้ จากความไม่ปลอดภัยทั้งของวัสดุ ตะกั่ว เหล็กจัดฟัน หากไม่ได้มาตรฐานและหากมีการติดตั้งไม่ได้อาจเข้าหลอดลม ลำคอ ผู้ดำเนินการจัดฟัน ควรเป็นทันตแพทย์ที่ชำนาญ และจากการตรวจสอบ ก็พบว่า มีเอกสารเกี่ยวอ้างถึงทันตแพทย์คนหนึ่งด้วย ซึ่งทันตแพทยสภา จะส่งเรื่องตรวจสอบต่อไป หากผิดจะเข้าข่ายความผิดด้านจริยธรรม เพราะเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย .-สำนักข่าวไทย