สยามพารากอน 28 ก.ย.- ดร.สุเมธ อยากเห็นคนไทยน้อมนำคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาปฎิบัติ เพื่อพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมงานเปิดตัวหนังสือเดินทางตามรอยพระราชา “The King’ s Journey ” Learning Passport จัดทำโดยสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชน สนุกรู้ สนุก คิด สนุกทำ ตามรอยพระราชา จากโครงการพระราชดำริ ดร.สุเมธกล่าวว่า หนังสือมุ่งหวังให้ประชาชน เยาวชน เกิดการเรียนรู้และปฏิบัติตาม ทุกวันนี้ คนมักชอบพูดว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากไปแล้ว แต่ความจริงพระองค์ท่านยังอยู่ ไม่ได้จากไปไหน พระสุระเสียงยังก้องอยู่ โครงการพระราชดำริยังอยู่ แนวทางที่ทรงวางไว้ให้ยังอยู่ มีมากถึง 4,700 โครงการ ที่ทุกคนพูดถึงมีมากมาย แต่ต้องเข้าใจด้วย เมื่อเข้าใจ ก็เข้าถึง เหมือนกับหนังสือตามรอยพระราชา จะพาเยาวชนไปเข้า ใจการทำงานของพระองค์ท่านตลอดพระชนม์ชีพว่ามีมากมายแค่ไหน ทรงแปรพระราชฐานใน 1 ปี มากถึง 8 เดือน แต่ไม่ใช่เพื่อความสำราญ หรือ พักผ่อน แต่เป็นการทรงงาน ในพื้นที่ทุรกันดาร จนพระวรกายเหนื่อยล้า แต่ไม่เคยทรงบ่น จากนี้ถึงเวลาแล้วที่คนไทยทุกคนจะต้องเข้าใจ และปฏิบัติตาม พระสุระเสียงยังอยู่ ทุกอย่างทรงทำไว้เป็นแบบอย่างเหมือน กับคำสอนของพระพุทธเจ้า แม้เวลาจะล่วงผ่านก็ยังอยู่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชก็เช่นกัน คำสอนของพระองค์ยังอยู่ หากนำมาปฏิบัติใช้ก็จะเกิดประโยชน์สุข
ดร.สุเมธ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานที่พระองค์ทรงทำนั้นเห็นผลเป็นรูปร่างคือ ปัจจัยในการดำรงชีวิตของคนไทย ทั้งดิน น้ำ เป็นข้าว ปลา อาหาร อยู่ในปัจจัย4 พระองค์ทรงสอนให้เราทุกคนรู้จักรักษาธรรมชาติ ไม่ใช่ เพราะการตักตวง แต่เพื่อส่วนร่วม เพื่อคนรุ่นลูก รุ่นหลานมีทรัพยากรใช้ คนไทยจึงไม่ควรใจดำส่งมอบสิ่งที่ทำลายคนรุ่นหลังต่อๆกันไป ควรส่งต่อแต่สิ่งดีๆ ดังนั้น งานของพระองค์จะบรรลุได้ก็เมื่อเกิดการปฎิบัติ ความเศร้าโศกต่อจากไปของพระองค์ ด้วยความอาลัยรัก ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นเรื่องดี แต่ต้องนำสิ่งที่พระองค์ทรงสอนสั่ง มาทบทวนอย่างเข้าใจให้เกิดประโยชน์ เพื่อพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองให้เกิดประโยชน์.-สำนักข่าวไทย
