รัฐสภา 28 ก.ย.-นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงขั้นตอนการขออุทธรณ์คดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังราชกิจจานุเบกษา ประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า จำเลยจะต้องมาปรากฎตัวต่อศาล เพื่อขออุทธรณ์ด้วยตนเอง และไม่มีการนับอายุความ โดยจำเลยต้องกลับมาต้องรับโทษเท่าเดิม พร้อมระบุว่า หากกลับมารับโทษแล้ว นางสาวยิ่งลักษณ์ ก็ไม่สามารถเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตลอดชีวิต เพราะถูกศาลพิพากษาให้มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ให้จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา จึงถือเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ แต่หากจำเลยอุทธรณ์คดีได้ ก็จะต้องรอการพิพากษาใหม่
“แม้จะหนีไปกี่ปี ก็ต้องกลับมารับโทษ อายุความไม่นับ และเรามีลักษณะต้องห้ามอันหนึ่งก็คือ ต้องไม่เคยถูกพิพากษาลงโทษจำคุก ว่ากระทำผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. ศาลลงโทษตามกฎหมาย ป.ป.ช.ด้วย และมีลักษณะต้องห้ามตลอดไป ตามรัฐธรรมนูญใหม่” นายมีชัย กล่าว
นายมีชัย กล่าวว่า พระราชบัญญัติมาตรการกำกับและติดตาม จับกุมผู้หลบหนีการปล่อยตัวชั่วคราวโดยศาลนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับคดีของนางสาวยิ่งลักษณ์ และไม่จำเป็นจะต้องมีบุคคลประกบติดตาม เพราะพ้นขั้นตอนการขอประกันตัวไปแล้ว แต่บุคคลที่รู้เบาะแสจำเลย ยังอาจได้รับเงินสินบน ทั้งนี้ปัญหาที่ผ่านมาคือจะสามารถนำตัวบุคคลที่กระทำผิดมาดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องตอนต้น ส่วนเรื่องอุทธรณ์ การตามหาตัวเป็นเรื่องตอนท้ายที่ศาลตัดสินแล้วว่าผิด โดยในแง่ของผู้ร่างกฎหมาย คือ จะทำยังไงให้กลไกการหาตัวคนผิดมาดำเนินการให้ได้
ส่วนการรื้อฟื้นคดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายมีชัย ชี้แจงว่า ตามกฎหมายมีขั้นตอนที่ศาลจะต้องออกหมายจับ และรอให้จำเลยปรากฏตัวภายใน 1 เดือน แต่เบื้องต้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของอัยการว่าจะดำเนินการอย่างไร และส่วนตัวยังไม่สามารถให้คำตอบได้ .-สำนักข่าวไทย