สำนักข่าวไทย 26 ก.ย.-แม่หมอมุกเผยทุกวันนี้พัฒนาการของหมอมุกดีขึ้น ช่วยเหลือตัวเองได้แต่ยังพูดไม่ชัด สื่อสารไม่เข้าใจในบางคำ หลังศาลตัด สินให้ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น จำคุก 3 ปี 9 เดือน ในคดีขับรถชนหมอมุก เมื่อปี 2554 จากเหตุจอดรถขวางทางออก
พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา มารดา พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก กล่าวภายหลังศาลทหารกรุงเทพ ตัดสินคดี พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่นผู้อำนวยการกองกลาง สำนักงานปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ขับรถชนหมอมุก เมื่อปี 2554 โดยศาลให้จำคุก 3 ปี 9 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ว่า เคารพการตัดสินของศาล และขณะนี้ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนายความ ในการดำเนินการทุกอย่าง ซึ่งความช่วยเหลือด้านคดีก็ได้รับการดูแลอย่างดี จากสภาทนายความ โดยตลอดระยะเวลาตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบันนานกว่า 6 ปี เกือบ 7 ปี มานี้ ยอมรับการใช้ชีวิตของครอบครัวเปลี่ยนไปมาก และคู่กรณีไม่เคยให้ความช่วยเหลือ หรือมาดูแลอะไรเลย
พร้อมย้ำว่า ทุกวันนี้หมอมุกจะช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น ในเรื่องของชีวิต ประจำวัน แต่ยังพูดไม่คล่อง หรือไม่ได้ในบางคำ ต้องอาศัยการพูดคุยให้มากๆ จึงจะจำได้ จึงห่วงเป็นพิเศษ ในเรื่องการสื่อสาร หรือการเดินทาง เพราะกลัวคนจะไม่เข้าใจ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้สมอง หรือ การทำงานของร่างกายของหมอมุกเปลี่ยนไป ทุกวันนี้ก็ต้องมาเรียนพูดที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า
พญ.พรรณกร กล่าวอีกว่า ส่วนการทำงานของหมอมุก ปัจจุบัน ยังคงทำงาน อยู่ภายใต้สังกัดกรมการแพทย์ทหารบก ซึ่งได้รับการดูแลและช่วยเหลือจากผู้บังคับบัญชาอย่างดี ให้มาทำงานในส่วนของการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วย แต่ทุกวันที่มาทำงาน แม่ยังคงต้องนั่งรถมาเป็นเพื่อนด้วยเสมอ เนื่องจากหมอมุกยังสื่อสารไม่ชัดเจน บางคำ สำหรับคนเป็นแม่ ตอนนี้ห่วงที่สุดเรื่องการใช้ชีวิตของหมอมุกในอนาคต หากแม่ต้องจากไป เพราะนับวันนี้ ตนเองก็มีอายุมากขึ้น 77 ปี แล้ว อยากให้ลูกดูแลตัวเองได้มากกว่านี้
สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่11 มิ.ย.2554โดยพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ผู้อำนวยการกองกลาง สำนักงานปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย (ตำแหน่งในขณะนั้น)ได้ขับรถพุ่งชน พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา แพทย์ประจำ รพ.พระมงกุฎ หรือหมอมุก ที่หน้าบ้านพักย่านสามเสน เนื่องจากไม่พอใจที่จอดรถขวางทางออก จากนั้น พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ได้หลบหนีไปและเมื่อคดีนี้เป็นข่าวครึกโครม .-สำนักข่าวไทย