ระบบขนส่งพร้อมรับประชาชนเดินทางช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

กรุงเทพฯ  25 ก.ย. – กระทรวงคมนาคมเตรียมมาตรการอำนวยความสะดวกการเดินทางช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ 


นายจิรุตม์ วิศาลจิตร ผู้ตรวจราชการ และโฆษกกระทรวงคมนาคมกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่าได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชน เพื่อร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  5 ด้านหลัก ประกอบด้วย ด้านจุดเชื่อมต่อการเดินทางและจุดจอดรถ ด้านค่าโดยสารและค่าธรรมเนียมการเดินทาง ด้านการให้บริการขนส่งสาธารณะ ด้านความมั่นคงและปลอดภัย และด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนที่จะเดินทางมาแสดงความอาลัยได้รับความสะดวกมากที่สุด

โดยเฉพาะด้านบริการขนส่งสาธารณะที่แต่ละหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นทางราง ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เพิ่มขีดความสามารถรองรับการเดินทางของประชาชนที่จะเพิ่มขึ้นช่วงดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จัดเตรียมเที่ยววิ่งรถ บขส.เพิ่มจากปกติอีกร้อยละ 35 เป็น 9,233 เที่ยวต่อวัน รองรับผู้โดยสารเฉลี่ยวันละกว่า 186,788 คน 


ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพิ่มเที่ยววิ่งจากปกติอีกร้อยละ 30 โดยเป็นการจัดเที่ยววิ่งปกติวันละ 244 ขบวน รองรับผู้โดยสารเฉลี่ยกว่าวันละ 90,638 คน นอกจากนี้ ยังจัดขบวนรถพิเศษจากปริมณฑล 18 ขบวนต่อวัน รองรับผู้โดยสารอีกวันละ 9,000 คน จัดขบวนรถพิเศษจากต่างจังหวัด 8 ขบวนต่อวัน รองรับผู้โดยสาร 8,000 คนต่อวัน และพ่วงเพิ่มตู้รถโดยสารชั้น 3 ให้เต็มหน่วยเฉลี่ย 10,000 คนต่อวัน 

ส่วนการเดินทางด้วยเครื่องบินการบินไทยนอกจากจะมีเที่ยวบินปกติ 104 เที่ยวบินแล้วยังจัดเที่ยวบินเสริมอีก 20 เที่ยวบิน รวม 124 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ 69,468 คน ขณะที่สายการบินไทยสไมล์มีทั้งเที่ยวบินปกติ 398 เที่ยว และเที่ยวบินเสริมอีก 42 เที่ยว รวม440 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ 72,384 คน  นอกจากนี้ยังมีบริการขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่พื้นที่งานพระราชพิธีใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยรถเมล์ ขสมก. เรือโดยสาร รถไฟฟ้า ทั้งบีทีเอส แอร์พอร์ตเรลลิงค์ และรถไฟฟ้า MRT ที่พร้อมใจกันเพิ่มปริมาณและความถี่การเดินทาง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยกำหนดจุดจอดบริการขนส่งสาธารณะ เพื่อให้การเดินทางเชื่อมต่อทำได้ง่ายและสามารถเดินทางเข้าพื้นที่จัดงานพระราชพิธีสะดวกที่สุด สำหรับผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนอยู่แล้ว กระทรวงคมนาคมเตรียมจัดทำแอพพลิเคชั่นแนะนำการเดินทางเข้าร่วมงานพระราชพิธี เพื่อให้วางแผนการเดินทางง่ายขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนทุกคนที่ต้องการร่วมงานพระราชพิธีเดินทางได้อย่างสะดวกและทั่วถึง โดยไม่ต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับรายละเอียดของระบบขนส่งต่าง ๆ ที่เตรียมรองรับการเดินทางของประชาชน เพื่อเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ในส่วนของรถเมล์โดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ  (ขสมก.) เพิ่มจำนวนรถ เที่ยววิ่ง การเปลี่ยนกะพนักงานประจำรถ ทั้งกะเช้า กะบ่าย และกะสว่าง ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมถวายสักการะพระบรมศพฯ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 05.00-24.00 น. โดยรถโดยสารของ ขสมก.ที่ผ่านบริเวณวัดพระแก้ว สนามหลวง และบริเวณใกล้เคียง ได้แก่ สาย 1, 2, 3, 12, 15, 25, 32, 42, 47, 53, 59, 60, 68, 70, 79, 80, 82, 91, 203, 503, 508, 509, 511, 516 และ สาย 556 โดยรถโดยสารธรรมดาให้บริการฟรีทั้งหมด ยกเว้นรถโดยสารปรับอากาศเก็บค่าโดยสารอัตราปกติ ทั้งนี้ ขสมก. จัดรถโดยสาร Shuttel Bus อำนวยความสะดวกแต่ละจุดปลายทางสนามหลวงให้บริการฟรี รวม 32 เส้นทาง 


ส่วนเรือโดยสาร  กรมเจ้าท่าขอความร่วมมือผู้ประกอบการเรือโดยสารสาธารณะจัดเตรียมเรือโดยสารเพิ่ม (เรือเสริม) ให้บริการเรือโดยสารสาธารณะ (เรือเสริม) 3 ลำ ของบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ให้บริการรับส่งประชาชนโดยไม่เก็บค่าโดยสาร ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. โดยมีเส้นทางเดินเรือระหว่างท่าเรือสาทร-ท่าเรือพรานนก และท่าเรือพรานนก-ท่าเรือนนทบุรี สำหรับเรือโดยสารด่วนเจ้าพระยาที่ให้บริการตามปกติ ได้มีการเพิ่มจำนวนการให้บริการเป็น 55 ลำ ออกให้บริการทุก 10 นาที และขยายเวลาให้บริการถึงเวลา 21.00 น. 

เรือโดยสารข้ามฟาก เรือทรัพย์ธนนคร 1 ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์ธนนคร และเรือข้ามฟากนำโชคชัย 10 เรือข้ามฟากโพธิ์อรุณ 15 ให้บริการรับส่งประชาชนโดยไม่เก็บค่าโดยสาร ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป โดยมีเส้นทางเดินเรือระหว่างท่าเรือพรานนก-ท่าช้าง รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ เรือตรวจการณ์ ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชนที่ใช้บริการเรือและท่าเรือโดยสารสาธารณะที่มีการใช้งานจำนวนมากและจัดพนักงานขนส่งประจำท่าเทียบเรือสาธารณะที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยในการขึ้น-ลงเรือ พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการเดินทาง นอกจากนี้ กรมเจ้าท่าได้นำเรือเจ้าท่า 37 ออกให้บริการประชาชนเพิ่มเส้นทางที่มีประชาชนใช้บริการหนาแน่น 

ขณะที่ระบบรถไฟฟ้านวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีนั้น รถไฟฟ้าบีทีเอสจะให้บริการฟรีตลอดสาย ตั้งแต่สถานีหมอชิตถึงสถานีสำโรง และสถานีสนามกีฬาแห่งชาติถึงสถานีบางหว้า ส่วนวันที่ 25 และ 27 ตุลาคม 2560 รถไฟฟ้าบีทีเอสจะให้บริการฟรีเฉพาะส่วนต่อขยาย ได้แก่ ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท จากสถานีอ่อนนุชถึงสถานีสำโรง และส่วนต่อขยายสายสีลม จากสถานีวงเวียนใหญ่ถึงสถานีบางหว้า และรถประจำทางบีอาร์ที จากสถานีสาทรถึงสถานีราชพฤกษ์ เพื่อให้ประชาชนได้เดินทางมาร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์บริเวณพระเมรุมาศจำลอง ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ และสถานที่จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ตามวัดต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เตรียมให้บริการฟรี ในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ระหว่างวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2560 พร้อมเปิดให้บริการเดินรถถึงตี 2 ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]