รัฐบาลย้ำเดินหน้าปราบทุจริต-ทำคดียิ่งลักษณ์รอบคอบ

กรุงเทพฯ 23 ก.ย.-โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ กำชับฝ่ายความมั่นคงทำคดีพายิ่งลักษณ์หนีอย่างรอบคอบ ย้ำดำเนินคดีเงินทอนวัดจริงจัง เดินหน้าปราบทุจริต


พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงดำเนินการกรณีควบคุมตัวนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการพร้อมรถยนต์ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพาตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลบหนีด้วยความรอบคอบ ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ และชี้แจงให้สังคมรับทราบเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง

 “ส่วนจะเชื่อมโยงหรือขยายผลไปถึงอดีตนายตำรวจระดับสูงหรือบุคคลใดอีกหรือไม่ ต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจน รัฐบาลยืนยันความโปร่งใสและไม่เคยเกี่ยวข้องกับการหลบหนีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่และกระบวนการยุติธรรม พร้อมทั้งขอให้สังคมติดตามตรวจสอบไปพร้อมกันด้วย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี


 พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีเงินทอนวัดว่ารัฐบาลดำเนินการอย่างจริงจังและไม่เคยนิ่งนอนใจกับกรณีดังกล่าว แม้ว่าจะเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาชาติ (พศ.) แต่หน่วยงานของรัฐยังคงเดินหน้าตรวจสอบการทุจริตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากเข้าตรวจค้นบ้านพักอดีตผู้บริหารระดับสูงของพศ. ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี

 “นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับทั้ง 2 เรื่องเป็นอย่างมาก โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและมีความชัดเจนทุกเรื่อง เพื่อให้สามารถอธิบายแก่สังคมให้เกิดความกระจ่างได้ รัฐบาลนี้ยึดมั่นการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ หากประชาชนมีข้อมูลเบาะแสที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่เฉพาะ 2 เรื่องดังกล่าวข้างต้น ขอให้ส่งข้อมูลไปยังผู้ที่รับผิดชอบ เพื่อให้ดำเนินการโดยเร่งด่วนและเด็ดขาดต่อไป” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าว.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนรถบรรทุก

แพทย์หญิงดับสลด ขับชนท้ายรถบรรทุก

แพทย์หญิง ขับรถพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ เสียชีวิตคาที่ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี มุ่งหน้าสะพานตากสิน ถนนกรุงธนบุรี ตรวจสอบในรถพบซองยาแก้หวัด-คัดจมูก

แสตมป์ถูกข่มขู่

โฆษก ทบ. พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​”

โฆษกกองทัพบก พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​” ถูกนายพลข่มขู่​ ขอข้อมูลเพิ่มตรวจสอบอยู่ในประจำการหรือไม่​ ลั่น​ หากยังรับราชการถือผู้วินัยร้ายแรง​แม้เป็นเรื่องส่วนตัว​

ข่าวแนะนำ

น้ำค้างแข็งดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ น้ำค้างแข็งต่อเนื่อง อุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ

ภาคเหนือหนาวต่อเนื่อง บริเวณกิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งขาวโพลน เป็นวันที่ 10 อุณหภูมิยอดหญ้า ติดลบ 0.4 องศาฯ

U.S. President Joe Biden and Trump shaking hands during meeting in Oval Office on November 13, 2024

“ทรัมป์” เตรียมสาบานตนรับตำแหน่ง ปธน.สหรัฐวันนี้

วอชิงตัน 20 ม.ค. – นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกอบกิจกรรมหลายอย่างเมื่อวานนี้ ก่อนเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น นายทรัมป์เดินทางมาถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่เย็นวันเสาร์ และเมื่อวานนี้เขาและนายเจดี แวนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดี ได้เดินทางไปร่วมพิธีวางพวงมาลาและเคารพเหล่าทหารที่เสียชีวิตในสงครามที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย จากนั้นนายทรัมป์ได้ไปเข้าร่วมงานปราศรัยกับผู้สนับสนุนที่แคปิตอลวันอารีนา ซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มในกรุงวอชิงตัน นับเป็นการปราศรัยใหญ่ในกรุงวอชิงตันครั้งแรกของทรัมป์ หลังจากที่เคยปราศรัยเรียกร้องผู้สนับสนุนให้ยกขบวนไปอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 คัดค้านที่เขาพ่ายแพ้ให้แก่นายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2563 สนามกีฬาแห่งนี้ยังจะเปิดให้ผู้คนได้เข้าชมงานพิธีสาบานตนของทรัมป์ผ่านการถ่ายทอดสดทางจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายจากอิทธิพลของกระแสลมวนขั้วโลกแผ่ปกคลุมสหรัฐ ทำให้ต้องย้ายการจัดพิธีสาบานตนจากด้านหน้าอาคารรัฐสภาเข้าไปจัดด้านใน โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ชาวอเมริกันจากทั่วประเทศเดินทางถึงกรุงวอชิงตันแล้วเพื่อร่วมงานที่เกี่ยวข้องกับพิธีสาบานตนของทรัมป์ หลายคนผิดหวังที่พลาดโอกาสได้ร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ แต่ส่วนใหญ่เข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสภาพอากาศเลวร้าย นายทรัมป์ วัย 78 ปี จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในเวลาเที่ยงวันของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาไทย ตามด้วยการกล่าวปราศรัย ซึ่งจะเป็นการประกาศแนวทางสำหรับการบริหารงานเป็นเวลา 4 ปีหลังจากนี้.-815(814).-สำนักข่าวไทย

ฝุ่นPM

เตือนเฝ้าระวังค่าฝุ่น PM2.5 สูงตลอดสัปดาห์นี้

กรมควบคุมมลพิษ แจ้งเตือนแนวโน้มค่าฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นตลอดสัปดาห์ โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 22-25 ม.ค. ทั้งสาเหตุจากอากาศนิ่งและจมตัว อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ ประกอบกับข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่ รวมถึงหมอกควันข้ามแดน