กรุงเทพฯ 21 ก.ย.- สภาการศึกษาเผยผลวิจัยสภาวะการศึกษาไทยปี 59-60 พบความเหลื่อมล้ำการศึกษา ขณะที่นักวิชาการ เเนะคกก.อิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาสางปมปัญหา เเละครูควรเปลี่ยนวิธีสอนเป็นวิธีคิด
นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานการประชุมสัมมนาเรื่องสภาวะการศึกษาไทย ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาจัดขึ้นเพื่อนำเสนอสภาวะการศึกษาไทย ในปีพ.ศ.2559เเละ2560 เเละนำไปสู่การถอดบทเรียนเพื่อกำหนดนโยบายเเก้ปัญหาการศึกษาที่เกิดขึ้น โดยภายในงานได้มีการอภิปรายถึงประเด็นดังกล่าวโดยนักวิชาการการศึกษา อาทิ ศ.อุทุมพร จามรมาน อดีตผู้อำนวยการสำนักทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ
นายรุ่ง แก้วแดง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานมูลนิธิสุขแก้ว-แก้วแดง กล่าวว่า หลังได้ทำรายงานสภาวะการศึกษาไทยปี2559/2560 พบข้อมูลที่สำคัญดังนี้ จำนวนนักเรียนในระบบการศึกษาลดลงทุกระดับ นักเรียนบางกลุ่มไม่ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงโดยเฉพาะเด็กก่อนวัยเรียนเเละผู้เรียนที่ยังไม่ได้เข้ารับการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ด้านการจัดสรรงบประมาณ โรงเรียนขนาดใหญ่ได้เปรียบกว่าโรงเรียนขนาดเล็ก ทำให้โรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนมากขึ้น คุณภาพต่ำ เเละเด็กในชนบทมีค่าใช้จ่ายทางการศึกษามากกว่าเด็กในเมือง ขณะที่ด้านคุณภาพการศึกษาเมื่อดูจากคะเเนนโอเน็ต ในระดับม.ปลายพบว่าอยู่ในภาวะวิกฤตโดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์เเละภาษาอังกฤษเด็กได้คะเเนนเพียงร้อยละ 20 ซึ่งสวนทางกับปัจจุบันที่มีโรงเรียนติววิชาเพิ่มขึ้น เเต่ครูมุ่งสอนเเบบท่องจำ การสอบโอเน็ตจึงไม่สามารถพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็ก ขณะเดียวกันคะเเนนPISA ไม่เคยได้คะเเนนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย เเละได้ต่ำกว่าเวียดนาม ประเทศที่ลงทุนทางการศึกษาน้อยกว่า ส่วนการบริหารจัดการโรงเรียน เดิมการบริหารขึ้นอยู่กับกระทรวงศึกษาธิการโดยตรง โรงเรียนต้องฟังคำสั่งรายวัน ขาดอิสระเเละความคล่องตัวในการบริหาร จึงควรมีโรงเรียนนิติบุคคล ขณะเดียวกันปัญหาทุจริตคอรัปชั่นมีมากขึ้นทั้งในระดับกระทรวงเเละท้องถิ่น ส่วนเรื่องการสนับสนุนไทยเเลนด์4.0 ยังไกลจากเป้าหมายมาก
นายรุ่ง กล่าวต่อว่า เสนอเเนะให้คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาเเละกระทรวงศึกษาธิการ ลดความหลื่อมล้ำเเละสร้างความเท่าเทียมระหว่างโรงเรียนในเมืองเเละชนบท ใช้ผลสอบโอเน็ตมาพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นรายบุคคล ครูต้องเปลี่ยนวิธีสอนเป็นวิธีคิด ส่งเสริมสายอาชีพ เน้นสร้างผลงานที่เป็นนวัตกรรมเเละสิ่งประดิษฐ์ จัดทำระบบสารสนเทศทางการศึกษาที่ทันสมัย เชื่อมโยงข้อมูลเพื่อพัฒนาเด็กอย่างต่อเนื่อง
ศ.อุทุมพร จามรมาน อดีตผู้อำนวยการสำนักทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ กล่าวว่า ควรปรับโครงสร้างเเละลดบทบาทการบริหารของกระทรวงศึกษาธิการ เกลี่ยคนจากส่วนกลางไปช่วยโรงเรียนในท้องถิ่น สนับสนุนให้มีการบริหารตนเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพัฒนาผู้เรียน ควรส่งเสริมธรรมาภิบาลในอุดมศึกษา เพิ่มบทลงโทษ เพราะปัจจุบันพบปัญหาความขัดเเย้งในมหาวิทยาลัยจนเป็นอุปสรรคต่อการเรียนของนักศึกษา เรื่องครู หลักสูตรผลิตครู กำหนดให้เรียนเนื้อหาที่จำเป็นต่อการสอนน้อยมาก จึงมีพระราชบัญญัติวิชาชีพครู เพื่อฝึกพัฒนาครูให้มีความสามารถเเละพร้อมที่จะให้ความรู้อย่างรอบด้านเเก่เด็ก ส่วนเรื่องประกันคุณภาพการศึกษา ควรประเมินให้ตรงจุด เเละควรมองการสอบว่าอาจไม่ใช่จุดสำคัญที่จะเป็นตัวชี้วัดคุณภาพเด็ก เเต่ควรเสริมให้เด็กเป็นคนเก่งเเละเป็นคนดีควบคู่กัน.-สำนักข่าวไทย