กทม.19 ก.ย.- ตำรวจใช้ 11 วันสืบสวนจับโจรบุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงเงิน ธนาคารธนชาต สาขาบางโคล่ หลังหนีไปกบดานที่ชัยภูมิ ตามเงินของกลางคืนได้เกือบทั้งหมด
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำตัวนายวัฒนา ภูจริต อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนบุกชิงทรัพย์ธนาคารธนชาต สาขาบางโคล่ ถนนพระราม 3 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ หลังจับกุมตัวได้วานนี้(18 ก.ย.)ขณะหนีไปกบดานที่บ้านด่านรีสอร์ท ตำบลบ้านกอก อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
โดยวันก่อเหตุนายวัฒนา ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดก่อนถึงธนาคาร จากนั้นเดินเข้าไปโดยไม่ปิดบังใบหน้า ทำทีเป็นลูกค้ารายแรกเข้าไปติดต่อทำธุรกรรมการเงินใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ได้เงินสดจำนวน 257,000 บาท แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ก่อนจอดทิ้งที่โรงเรียนพระแม่มารี ซอยจันทน์ 27 แขวงวัดทุ่งดอน เขตสาทร หนีไปจังหวัดชัยภูมิ
นายวัฒนา รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เนื่องจากต้องการเงินไปหนี้พนันฟุตบอล และหนี้สินส่วนตัว ไม่มีเจตนาจะทำร้ายพนักงานธนาคารเหตุที่เลือกสาขานี้ เพราะเห็นว่าคนไม่พลุกพล่าน น่าจะก่อเหตุได้ง่ายกว่าสาขาอื่น
พลตำรวจโทศานิตย์ เปิดเผยว่า นายวัฒนาไปซื้อจักรยานเก่าราคา 800 บาท ที่จังหวัดนครนายก ปั่นไปตามถนนใช้เวลา 4 วัน 3 คืนถึงจังหวัดชัยภูมิ เพื่อหลบเลี่ยงการติดตามจับกุม ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนลูกโม่ไทยประดิษฐ์ ขนาด จุด 38 ซื้อทางอินเทอร์เน็ต ราคา 12,000 บาท อยู่ระหว่างติดตามมาประกอบสำนวนคดี
พลตำรวจโทศานิตย์ กล่าวด้วยว่า ธนาคารต่างๆ จะต้องให้ความสำคัญเรื่องการดูแลความปลอดภัยธนาคารสาขาให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดช่องทางให้คนร้ายก่อเหตุในลักษณะนี้อีก
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา นายวัฒนาได้ใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปชิงทรัพย์ธนาคารดังกล่าว ก่อนหลบหนี ตำรวจใช้เวลา 11 วัน ก็สามารถติดตามจับกุมตัวได้ พร้อมเงินของกลาง 240,800 บาท แทบจะยังไม่ทันได้ใช้เงิน ก็ถูกจับกุมเสียก่อน.-สำนักข่าวไทย