ผู้ว่าฯ อยุธยาเตรียมเสนอครม.พัฒนาอยุธยา 3 ด้าน

อสมท 17 ก.ย.- ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตรียมเสนอ ครม.พัฒนาอยุธยา 3 ด้าน เสนอแนวคิดปลูกข้าวให้เร็วขึ้น แก้ปัญหาน้ำหลากจนข้าวเสียหาย เสนอสร้างเขื่อนปลายน้ำคลองบางพระครูและแม่น้ำลพบุรี เพิ่มศักยภาพระบายน้ำ เดินหน้าแนวคิด 209 ตำบล 209 แก้มลิงโดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐ ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี


นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาระหว่างวันที่ 18-19 กันยายนนี้ว่า จะมีวาระหารือเรื่องการบริหารจัดการน้ำและเรื่องโลจิสติกส์  จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีความโดดเด่น 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการท่องเที่ยว ด้านอุตสาหกรรม และด้านเกษตรกรรม 

ผู้ว่าฯ อยุธยา กล่าวว่า ด้านการท่องเที่ยว ทางจังหวัดจะเสนอเรื่องการเนรมิตอยุธยา ขณะที่การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยเฉพาะโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจะเป็นหน้าที่ของกรมศิลปากร ส่วนเรื่องโลจิสติกส์ เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือกันว่าจะพัฒนาให้เป็นสมาร์ทซิตี้อย่างไรให้สอดรับกับการพัฒนามรดกโลก นอกจากนี้ ก็จะเสนอเรื่องการพัฒนาการประชาสัมพันธ์เรื่องการท่องเที่ยวด้วย 


นายสุจินต์ กล่าวว่า ส่วนด้านอุตสาหกรรมนั้น แม้ว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว เพราะมีอุตสาหกรรม 3 นิคม 2 เขตส่งเสริม แต่สิ่งที่ต้องแก้ไขปัญหาคือ เรื่องมลพิษและสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน ต้องพัฒนาเรื่องโลจิสติกส์ด้วย เพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีการขนส่งสินค้าทั้งทางบก ทางรางและทางน้ำ ซึ่งต้องส่งเสริมให้การขนส่งเชื่อมต่อกันเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมให้แข็งแรงขึ้น 

ผู้ว่าฯ อยุธยา กล่าวว่า ส่วนที่นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปยังต.บ้านแพน อ.เสนา เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการทุ่งรับน้ำโครงการ“เปิดน้ำเข้านา-ปล่อยปลาเข้าทุ่ง” โดยจะเปิดประตูระบายน้ำบ้านแพนเข้านา พร้อมรับฟังบรรยายสรุปโครงการทำนาเหลื่อมปีและโครงการขุดดินแลกน้ำ เป็นการพัฒนาด้านเกษตรกรรม ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่กว่า 1 ล้านไร่ที่ทำเกษตรกรรม เป็นการเพาะปลูกข้าวกว่าร้อยละ 90 แต่ก็มีข้อจำกัดว่า 6 แสนกว่าไร่เป็นที่ลุ่มต่ำ เช่น ทุ่งบ้านแพน วังกุ้ง วังกุ่ม เป็นต้น

นายสุจินต์ กล่าวว่า ดังนั้นการเพาะปลูกพืชชนิดอื่นทำได้ยาก เพราะจะเกิดน้ำท่วมเสมอ จึงมีแนวคิดปรับเปลี่ยนเรื่องการเพาะปลูกให้เร็วขึ้น ปกติจะปลูกข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน เก็บเกี่ยวในเดือนตุลาคม ซึ่งไม่สอดรับกับช่วงน้ำหลาก เพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีช่วงน้ำหลากประมาณกลางเดือนกันยายน ก็จะทำให้ข้าวที่เพาะปลูกเสียหาย จึงได้หารือกับทางกรมชลประทาน เพื่อปรับเปลี่ยนคือ ต้องปลูกข้าวเร็วขึ้น 45 วัน โดยเริ่มปลูกข้าวกลางเดือนเมษายน และขณะนี้ก็เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จหมดแล้ว ทำให้ความเสียหายน้อยมาก เกษตรกรมีความสุขมากขึ้น เมื่อน้ำหลากมาในช่วงเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วก็ลดความเสียหายของเกษตรกรและภาครัฐได้มาก 


ผู้ว่าฯ อยุธยา กล่าวว่า ส่วนน้ำที่หลากมาในขณะนี้ก็กักเก็บไว้ในทุ่ง และให้เกษตรกรทำประมงโดยการปล่อยปลาไปกว่า 10 ล้านตัว ถือเป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ น้ำที่กักเก็บไว้ ก็สามารถใช้ในการเพาะปลูกในฤดูต่อไปได้อีกด้วย เรียกว่าทำข้าว 2 รอบ ทำประมง 1 รอบ ถือเป็นการพักนาเพื่อให้คุณภาพของดินดีขึ้น ลดการเผาตอซังข้าว ลดศัตรูพืชในนาได้อีกด้วย และแนวทางนี้ไม่ใช่ส่วนราชการเป็นผู้คิดฝ่ายเดียว แต่เกิดจากการหารือเป็นประชาคมร่วมกับชาวนา ดังนั้น การปรับเวลาการเพาะปลูก ไม่ต้องเสียงบประมาณใด ๆ เพิ่มเติม แต่เป็นการบริหารจัดการเหลื่อมเวลาเท่านั้น

นายสุจินต์ กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีแม่น้ำ 4 สายไหลผ่าน คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อย  แม่น้ำป่าสัก ทางด้านตะวันออกซึ่งเป็นด้านอุตสาหกรรม ได้งบประมาณ 5 พันล้านบาทจากรัฐบาลสร้างเขื่อนครบ 6 จุดแล้ว ขณะนี้กำลังพิจารณาในส่วนของคลองป่าสัก เพราะมีความสามารถในการระบายน้ำ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่หากระบายเกินมา 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำก็จะไหลย้อนกลับขึ้นไปท่วมคลองบางพระครูและแม่น้ำลพบุรี จะทำให้ศักยภาพการระบายน้ำจากสระบุรีและลพบุรีได้ยากขึ้น ก็จะเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ จึงจะสร้างเขื่อนที่ปลายน้ำคลองบางพระครูและปลายแม่น้ำลพบุรี เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำในพื้นที่แสนกว่าไร่ และในฤดูแล้งสามารถกักเก็บน้ำช่วยพื้นที่ได้กว่า 4 หมื่น 5 พันไร่รอบเขื่อน ดังนั้น การลงทุน 700 ล้านบาทในการสร้างเขื่อนจุดนี้ ถือว่า คุ้มค่ามาก

ผู้ว่าฯ อยุธยา กล่าวว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ให้นโยบายเรื่องหลุมขนมครกแก้มลิง ซึ่งทางจังหวัด มีแนวคิด 209 ตำบล 209 แก้มลิงโดยที่ไม่ใช้งบประมาณของรัฐ เนื่องจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีทั้งสิ้น 209 ตำบล และมีแนวคิดพัฒนาให้ทุกตำบลมีแก้มลิง โดยเน้นไม่ใช้งบประมาณ แต่จะใช้โครงการขุดดินแลกน้ำ โดยการนำดินของรัฐแลกค่าแรงของผู้ประกอบการ มีการประมูลทำตามระเบียบถูกต้อง ซึ่งจะทำให้โครงการแต่ละโครงการจะมีเงินเหลือเข้ารัฐ ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการนี้คือ ไม่ต้องตั้งงบประมาณ มีเงินเหลือเข้ารัฐ และได้แก้มลิง ซึ่งแก้มลิงในจังหวัดส่วนหนึ่งคือพื้นที่ที่ขอคืนจากการบุกรุกของประชาชนด้วย

นายสุจินต์ กล่าวว่า ได้ดำเนินการเรื่องการบริหารจัดการน้ำมาตลอด และมีแนวคิดให้บ้านทุกหลังในจังหวัดต้องมีถังประจำบ้านเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงขาดแคลนน้ำ ภายใต้หลักคิด ทุกคนทุกครัวเรือนต้องช่วยกันและช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งนี้ ทุกโครงการ ทางจังหวัดได้ประสานกับกรมชลประทานมาตลอด โดยกรมชลประทานจะขุดแม่น้ำสายใหม่ เรียกว่า บางบาลนอนไทร เพื่อให้การระบายน้ำมีศักยภาพเท่ากับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะทำให้อยุธยาและภาคกลางปลอดภัยจากน้ำท่วม เชื่อว่า ใน 3 ปีข้างหน้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]

จนท.ห้ามล่าสัตว์ป่า หายตัวปริศนา 3 วัน หลังไปขายลอตเตอรี่

อุทัยธานี 14 ก.ย.- แม่เศร้าลูกชาย ซึ่งเป็น จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา หายตัวปริศนา 3 วัน หลังออกเวรไปเร่ขายลอตเตอรี่ แต่จนถึงขณะนี้ ยังติดต่อไม่ได้ นางจำรัส อายุ 57 ปี ชาวบ้านบึงเจริญ หมู่ 9 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี นำเบาะแส เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด มอบให้สื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียง ในการตามหาลูกชาย คือนายเอกฉัตร อายุ 39 ปี ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา ต.ระบำ อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนาน 3 วัน โดยภาพวงจรปิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน นายเอกฉัตรนำแผงลอตเตอรี่มาขาย ที่ร้านของชำของแม่ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ สีแดงออกไป กระทั่งล่าสุด วันที่ 11 กันยายน กล้องอีกจุดจับภาพนายเอกฉัตร ขี่รถจักรยานยนต์ สีเขียว ทะเบียน 1ขอ […]

ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี

14 ก.ย.- ตำรวจสอบสวนกลาง ทลายแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 600 ต่อปี พบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 30 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง บุกจับนายณัฐพงษ์ อายุ 36 ปี นายวิเนตร อายุ 28 ปี และนายธีรวุฒิ อายุ 34 ปี ที่อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมของกลางหลายรายการ หลังมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเครือข่ายเงินกู้นอกระบบเก็บดอกเบี้ยถึงร้อยละ 626.25 ต่อปี กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ผู้กู้ไม่ต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตนไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน โอนเงินให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ไปบัญชีธนาคารของผู้กู้ โดยหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรก และงวดสุดท้ายไว้ก่อน หากผิดนัดชำระหนี้ ก็จะไประรานลูกหนี้อย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย. -สำนักข่าวไทย

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย กกต.คาดรู้ผลก่อน 3 ทุ่ม

เชียงราย 14 ก.ย.- กกต. คาดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย 65% เหตุอากาศเป็นใจ พบประชาชนตื่นตัวมารอใช้สิทธิแต่เช้า รู้ผลก่อน 3 ทุ่มคืนนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 7 จังหวัดเชียงราย ว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมารอใช้สิทธิทั้ง 2 หน่วยภายในโรงเรียนบ้านสบคา ซึ่งวันนี้สภาพอากาศเป็นใจท้องฟ้าปลอดโปร่ง หากเป็นไปเช่นนี้จะมีส่วนทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดีที่อากาศเอื้ออำนวยในการออกเสียงเลือกตั้งวันนี้ ซึ่งมีตั้งเป้าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 65 แม้จะเป็นงานยาก เพราะมีเงื่อนไขในเรื่องของกำหนดเวลายุบสภา แต่ด้วยความร่วมมือของทั้งพรรคการเมืองและผู้สมัคร และทางจังหวัดเชียงราย กกต.จังหวัดเชียงราย คาดว่าตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิจะใกล้เคียงเป้าที่ได้ตั้งเป้าไว้ สำหรับรายงานผล เมื่อปิดหน่วยในเวลา 17.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะมีการตรวจบัตรและนับคะแนน คาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในเวลาประมาณ 20.00 – 21.00 น. ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยระบุว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของชาวจังหวัดเชียงราย และเลขา กกต.ได้มาตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งซ่อม สส.เขตเลือกตั้งที่ 7 พร้อมเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ เลือกคนดีเข้าสภาเป็นหน้าที่ของชาวจังหวัดเชียงราย […]