ผู้ว่าฯ อยุธยาเตรียมเสนอครม.พัฒนาอยุธยา 3 ด้าน

อสมท 17 ก.ย.- ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตรียมเสนอ ครม.พัฒนาอยุธยา 3 ด้าน เสนอแนวคิดปลูกข้าวให้เร็วขึ้น แก้ปัญหาน้ำหลากจนข้าวเสียหาย เสนอสร้างเขื่อนปลายน้ำคลองบางพระครูและแม่น้ำลพบุรี เพิ่มศักยภาพระบายน้ำ เดินหน้าแนวคิด 209 ตำบล 209 แก้มลิงโดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐ ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี


นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาระหว่างวันที่ 18-19 กันยายนนี้ว่า จะมีวาระหารือเรื่องการบริหารจัดการน้ำและเรื่องโลจิสติกส์  จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีความโดดเด่น 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการท่องเที่ยว ด้านอุตสาหกรรม และด้านเกษตรกรรม 

ผู้ว่าฯ อยุธยา กล่าวว่า ด้านการท่องเที่ยว ทางจังหวัดจะเสนอเรื่องการเนรมิตอยุธยา ขณะที่การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยเฉพาะโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจะเป็นหน้าที่ของกรมศิลปากร ส่วนเรื่องโลจิสติกส์ เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือกันว่าจะพัฒนาให้เป็นสมาร์ทซิตี้อย่างไรให้สอดรับกับการพัฒนามรดกโลก นอกจากนี้ ก็จะเสนอเรื่องการพัฒนาการประชาสัมพันธ์เรื่องการท่องเที่ยวด้วย 


นายสุจินต์ กล่าวว่า ส่วนด้านอุตสาหกรรมนั้น แม้ว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว เพราะมีอุตสาหกรรม 3 นิคม 2 เขตส่งเสริม แต่สิ่งที่ต้องแก้ไขปัญหาคือ เรื่องมลพิษและสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน ต้องพัฒนาเรื่องโลจิสติกส์ด้วย เพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีการขนส่งสินค้าทั้งทางบก ทางรางและทางน้ำ ซึ่งต้องส่งเสริมให้การขนส่งเชื่อมต่อกันเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมให้แข็งแรงขึ้น 

ผู้ว่าฯ อยุธยา กล่าวว่า ส่วนที่นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปยังต.บ้านแพน อ.เสนา เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการทุ่งรับน้ำโครงการ“เปิดน้ำเข้านา-ปล่อยปลาเข้าทุ่ง” โดยจะเปิดประตูระบายน้ำบ้านแพนเข้านา พร้อมรับฟังบรรยายสรุปโครงการทำนาเหลื่อมปีและโครงการขุดดินแลกน้ำ เป็นการพัฒนาด้านเกษตรกรรม ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่กว่า 1 ล้านไร่ที่ทำเกษตรกรรม เป็นการเพาะปลูกข้าวกว่าร้อยละ 90 แต่ก็มีข้อจำกัดว่า 6 แสนกว่าไร่เป็นที่ลุ่มต่ำ เช่น ทุ่งบ้านแพน วังกุ้ง วังกุ่ม เป็นต้น

นายสุจินต์ กล่าวว่า ดังนั้นการเพาะปลูกพืชชนิดอื่นทำได้ยาก เพราะจะเกิดน้ำท่วมเสมอ จึงมีแนวคิดปรับเปลี่ยนเรื่องการเพาะปลูกให้เร็วขึ้น ปกติจะปลูกข้าวช่วงปลายเดือนมิถุนายน เก็บเกี่ยวในเดือนตุลาคม ซึ่งไม่สอดรับกับช่วงน้ำหลาก เพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีช่วงน้ำหลากประมาณกลางเดือนกันยายน ก็จะทำให้ข้าวที่เพาะปลูกเสียหาย จึงได้หารือกับทางกรมชลประทาน เพื่อปรับเปลี่ยนคือ ต้องปลูกข้าวเร็วขึ้น 45 วัน โดยเริ่มปลูกข้าวกลางเดือนเมษายน และขณะนี้ก็เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จหมดแล้ว ทำให้ความเสียหายน้อยมาก เกษตรกรมีความสุขมากขึ้น เมื่อน้ำหลากมาในช่วงเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วก็ลดความเสียหายของเกษตรกรและภาครัฐได้มาก 


ผู้ว่าฯ อยุธยา กล่าวว่า ส่วนน้ำที่หลากมาในขณะนี้ก็กักเก็บไว้ในทุ่ง และให้เกษตรกรทำประมงโดยการปล่อยปลาไปกว่า 10 ล้านตัว ถือเป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ น้ำที่กักเก็บไว้ ก็สามารถใช้ในการเพาะปลูกในฤดูต่อไปได้อีกด้วย เรียกว่าทำข้าว 2 รอบ ทำประมง 1 รอบ ถือเป็นการพักนาเพื่อให้คุณภาพของดินดีขึ้น ลดการเผาตอซังข้าว ลดศัตรูพืชในนาได้อีกด้วย และแนวทางนี้ไม่ใช่ส่วนราชการเป็นผู้คิดฝ่ายเดียว แต่เกิดจากการหารือเป็นประชาคมร่วมกับชาวนา ดังนั้น การปรับเวลาการเพาะปลูก ไม่ต้องเสียงบประมาณใด ๆ เพิ่มเติม แต่เป็นการบริหารจัดการเหลื่อมเวลาเท่านั้น

นายสุจินต์ กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีแม่น้ำ 4 สายไหลผ่าน คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อย  แม่น้ำป่าสัก ทางด้านตะวันออกซึ่งเป็นด้านอุตสาหกรรม ได้งบประมาณ 5 พันล้านบาทจากรัฐบาลสร้างเขื่อนครบ 6 จุดแล้ว ขณะนี้กำลังพิจารณาในส่วนของคลองป่าสัก เพราะมีความสามารถในการระบายน้ำ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่หากระบายเกินมา 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำก็จะไหลย้อนกลับขึ้นไปท่วมคลองบางพระครูและแม่น้ำลพบุรี จะทำให้ศักยภาพการระบายน้ำจากสระบุรีและลพบุรีได้ยากขึ้น ก็จะเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ จึงจะสร้างเขื่อนที่ปลายน้ำคลองบางพระครูและปลายแม่น้ำลพบุรี เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำในพื้นที่แสนกว่าไร่ และในฤดูแล้งสามารถกักเก็บน้ำช่วยพื้นที่ได้กว่า 4 หมื่น 5 พันไร่รอบเขื่อน ดังนั้น การลงทุน 700 ล้านบาทในการสร้างเขื่อนจุดนี้ ถือว่า คุ้มค่ามาก

ผู้ว่าฯ อยุธยา กล่าวว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ให้นโยบายเรื่องหลุมขนมครกแก้มลิง ซึ่งทางจังหวัด มีแนวคิด 209 ตำบล 209 แก้มลิงโดยที่ไม่ใช้งบประมาณของรัฐ เนื่องจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีทั้งสิ้น 209 ตำบล และมีแนวคิดพัฒนาให้ทุกตำบลมีแก้มลิง โดยเน้นไม่ใช้งบประมาณ แต่จะใช้โครงการขุดดินแลกน้ำ โดยการนำดินของรัฐแลกค่าแรงของผู้ประกอบการ มีการประมูลทำตามระเบียบถูกต้อง ซึ่งจะทำให้โครงการแต่ละโครงการจะมีเงินเหลือเข้ารัฐ ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการนี้คือ ไม่ต้องตั้งงบประมาณ มีเงินเหลือเข้ารัฐ และได้แก้มลิง ซึ่งแก้มลิงในจังหวัดส่วนหนึ่งคือพื้นที่ที่ขอคืนจากการบุกรุกของประชาชนด้วย

นายสุจินต์ กล่าวว่า ได้ดำเนินการเรื่องการบริหารจัดการน้ำมาตลอด และมีแนวคิดให้บ้านทุกหลังในจังหวัดต้องมีถังประจำบ้านเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงขาดแคลนน้ำ ภายใต้หลักคิด ทุกคนทุกครัวเรือนต้องช่วยกันและช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งนี้ ทุกโครงการ ทางจังหวัดได้ประสานกับกรมชลประทานมาตลอด โดยกรมชลประทานจะขุดแม่น้ำสายใหม่ เรียกว่า บางบาลนอนไทร เพื่อให้การระบายน้ำมีศักยภาพเท่ากับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะทำให้อยุธยาและภาคกลางปลอดภัยจากน้ำท่วม เชื่อว่า ใน 3 ปีข้างหน้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอก ประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดน ไม่เคยจบง่ายบางประเทศใช้เวลาเป็น 100 ปี อย่าไปกังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 […]

ชื่นชมผ้าไทยลายกริพเพน

25 ส.ค. – ผ้าไทยลาย “กริพเพน” ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินขับไล่กริพเพน ของกองทัพอากาศไทย ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย เพจกรุงเก่าของชาวสยาม และคุณ Kamon Wan เผยแพร่ภาพผ้าไทยลายเครื่องบินรบกริพเพน โดยกองทัพอากาศ รายงานว่าแนวคิดนี้เกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องบินกริพเพน ที่มาร่วมพิทักษ์แผ่นดินไทย ชายแดนไทย-กัมพูชา และถูกถ่ายทอดลงบนผ้าไหมสุรินทร์อันเลื่องชื่อ ผสาน “ความแข็งแกร่ง” ของนักรบกับ “ความงาม” แห่งภูมิปัญญาไทยได้อย่างทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แม่ย่านางกริพเพน” ศิลป์และศรัทธาได้รวมเป็นหนึ่ง ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย นี่คือผลงานที่ย้ำเตือนว่าไทยมิได้มีเพียงกำลังปกป้องผืนแผ่นดิน แต่ยังรักษารากเหง้าวัฒนธรรมอันงดงามไว้คู่กัน เพื่อบอกชัดแก่โลกว่าเราคือประเทศไทยผู้สืบสานวัฒนธรรม ที่จะไม่มีวันให้ใครมาย่ำยี ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน ว่าผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสวีเดนประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ของ SAAB สวีเดน ได้เห็นแล้วปลื้มใจมากที่คนไทยมีความรู้สึกที่ดีกับเครื่องบินกริพเพน และนับเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ กองทัพอากาศมีกำหนดที่จะลงนามในสัญญาจัดซื้อเครื่องบิน Gripen C/D กับ FMV และ SAAB สวีเดน ในวันนี้ (25 สิงหาคม) นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล […]

“คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามบ่ายนี้ ไทยเตรียมรับฝนหนัก​ 25-27​ ส.ค.

กรุงเทพฯ​ 25 ส.ค.​ – กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วงบ่ายถึงค่ำ วันนี้​ เตือนทั่วไทยฝนฟ้าคะนองเพิ่ม ขณะที่ภาคอีสาน​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ​ เตรียมรับมือฝนถล่ม ช่วง 25​ -​ 27​ ส.ค.​นี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้​อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่น​คาจิกิอยู่ห่างจากเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 150 กม. เคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า​ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วง​บ่าย​ถึง​ค่ำ​วันนี้​ และเข้าสู่ สปป ลาว ตามลำดับ เมื่อ​ขึ้นฝั่ง​พายุ​จะ​เริ่ม​อ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ประเทศ​ไท​ยจะเป็น​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ แต่ไม่รุนแรง​เท่าพายุ​วิภา ทั้งนี้​ ช่วงวันที่ 25–27 ส.ค. 68 ประเทศ​ไท​ยจะมีฝนตก​เพิ่ม​ เริ่มจาก​ขอบของ​พายุ​ ประกอบกับกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตก​หนัก​ถึง​หนัก​มาก​ โดยเฉพาะ​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​ขอให้​ประชาชนติดตามประกาศแจ้ง​เตือน​ลักษณะ​อากาศ​อย่างใกล้ชิด.​ 512​ – สำนักข่าว​ไทย​

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ตะวันออกฝ-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง […]