ศาลปกครองสั่งเพิกถอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม มหาดเล็ก เรสซิเด้นท์

ศาลปกครอง 14 ก.ย.- ศาลปกครองสั่งเพิกถอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างอาคารชุดหรู “มหาดเล็ก เรสซิเด้นท์”   ชี้การอนุมัติไม่ชอบ ขนาดความกว้างถนน- ขนาดพื้นที่ดินตั้งอาคาร ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตาม  พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 


ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาสั่งเพิกถอนมติคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน ที่ให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างอาคารชุดมหาดเล็ก เรสซิเด้นท์  ที่ตั้งอยู่ใน ซ.มหาดเล็ก 2 ถ.ราชดำริ แขวงลุมพีนี เขตปทุมวัน กรุงเทพ   ที่สำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง  เป็นเจ้าของโครงการ โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่  3  เมษายน  2557  ซึ่งเป็นวันที่มีมติดังกล่าว

คดีดังกล่าวชาวบ้าน 23 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารชุดคิวหลังสวน และ แกรนด์หลังสวน ซ.หลังสวน ใกล้เคียงกับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวได้ยื่นฟ้อง   สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมพวก เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4  และมี บริษัทไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน ) และสำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง เป็นผู้ร้องสอดที่ 1-2  ต่อศาลปกครอง    โดยเห็นว่า โครงการก่อสร้างอาคารดังกล่าวเป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษสูง 43 ชั้น มีจำนวนห้องพัก 516 ห้อง ได้รับการอนุญาตก่อสร้างไม่ชอบด้วยกฎหมาย 


ส่วนเหตุผลที่ศาลมีคำพิพากษาดังกล่าวระบุว่า  ข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติว่า ซ.มหาดเล็กหลวง 1 ถึง ซ.มหาดเล็กหลวง 3  ที่ใช้เพื่อการจราจรของโครงการต่าง ๆ ของโฉนดที่ดินเลขที่ 2220  เลขที่ดิน 3 ของสำนักงานพระคลังข้างที่ฯ  และใช้เป็นทางเข้าออกสู่ถ.ราชดำริ และถ.หลังสวน  เป็นถนนส่วนบุคคล ไม่ใช่ถนนสาธารณะ   แม้คณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ จะอ้างว่าซ.มหาดเล็กหลวง 2  มีความกว้างตั้งแต่ 12 ถึง 13.57 เมตร และ ซ.มหาดเล็กหลวง 3 มีความกว้างตั้งแต่ 12 ถึง 14.42 เมตร

แต่เมื่อทั้งสองซอย ไม่ใช่ถนนสาธารณะที่มีความกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตร   ที่จะรองรับอาคารใหญ่พิเศษ พื้นที่อาคารรวมมากกว่า 3 หมื่นตารางเมตรได้   ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2 วรรคสองของกฎกระทรวงฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ออกตามความพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 กำหนด กรุงเทพมหานคร   ซึ่งเป็นราชการส่วนท้องถิ่น มีอำนาจในการควบคุมต้องพิจารณาเหตุผลความจำเป็น   เนื่องจากปัจจุบันมีการก่อสร้างอาคารสูงขนาดใหญ่พิเศษเพื่อใช้ประโยชน์ในการอยู่อาศัยจำนวนมาก   

นอกจากนี้กฎกระทรวงให้ใช้ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร 2556 กำหนดให้ที่ดินตามโฉนดของสำนักงานพระคลังข้างที่ อยู่ในเขตพื้นที่สีแดงหมายเลข พ.5 -1 ประเภทพานิชยกรรม  ที่จะใช้ประโยชน์เป็นที่ตั้งของศูนย์พานิชยกรรมหลัก ศูนย์กลางทางธุรกิจการค้า บริการ  ท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้   ซึ่งถือเป็นย่านชุมชนที่ต้องคำนึงถึงเรื่องความสะดวกแก่การจราจร  ความปลอดภัย รวมทั้งสิ่งแวดล้อมของอาคารยิ่งกว่าในย่านชุมชนเบาบาง ย่อมต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด เมื่อที่ดินที่จะใช้ก่อสร้างอาคารโครงการ มิได้มีด้านหนึ่งใดของที่ดินนั้นยาวไม่น้อยกว่า 12 เมตร ติดถนนสาธารณะที่มีเขตกว้างไม่น้อยกว่า 12 เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมกับถนนสาธารณะอื่นที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตร  โดยสภาพของที่ดินจึงไม่อาจใช้ก่อสร้างอาคารที่มีขนาดพื้นที่ 3 หมื่นตรม.ได้ ดังนั้นคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ต้องมีมติไม่เห็นชอบต่อรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังกล่าว


นอกจากนี้การที่คณะกรรมการชำนาญการฯ  มีมติเห็นชอบรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับค่าสูงสุดของอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมกันทุกขั้นของอาคารทุกหลังต่อพื้นที่ดินใช้เป็นที่ตั้งอาคาร (FAR) โดยนำที่ดินแปลงย่อยที่ 25 ของโฉนดที่ดินเลขที่ 2220 เลขที่ดิน 3 ของสำนักงานพระคลังข้างที่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารเอสจีทาวเวอร์  มารวมคำนวนกับอาคารตามโครงการพิพาทนั้นเห็นว่า     เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่า อาคารพิพาทมีพื้นที่อาคารรวม 43,747.50 ตรม.   มีพื้นที่ดิน 2,872.15 ตรม.เมื่อคำนวนค่า FAR  เท่ากับ 15.23 ต่อ 1 ซึ่งเกิน 10 ต่อ 1 

จึงไม่เป็นตามข้อ 5 วรรคสองของกฎกระทรวงฉบับที่ 33 ( พ.ศ. 2535)ที่กำหนดว่า ในกรณีที่มีอาคารอื่นใดหรือจะมีการก่อสร้างอาคารอื่นใด ในพื้นที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคารเดียวกันกับอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษต้องมีค่าสูงสุดของอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมกันทุกชั้นของอาคารทุกหลังต่อพื้นที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคารไม่เกิน 10 ต่อ 1 ด้วย  และไม่เป็นไปตามข้อ 22 ของกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพ 2556 ดังนั้นมติของคณะกรรมการชำนาญการฯ ที่เห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการดังกล่าวซึ่งมีข้อกำหนดไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารจึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร