ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินสมาคมรถหรู-กรมศุลกากร เปลี่ยนเกณฑ์คำนวณราคา

ศาลปกครอง 14 ก.ย.- ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉิน  สมาคมรถหรู-กรมศุลกากร กรณีเปลี่ยนเกณฑ์คำนวณราคา “ชัยยุทธ” รองอธิบดีกรมศุลฯ ยืนยันไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า   เหตุเป็นเกณฑ์ตรวจสอบภายใน  ชี้หากผู้สำแดงไม่ทุจริตไม่ได้รับผลกระทบ  


ศาลปกครองกลางไต่สวนฉุกเฉินสองฝ่าย  ในคดีที่สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ ซึ่งมีสมาชิกกว่า 60 บริษัท  ยื่นคำร้องขอศาลปกครองกลาง  เพิกถอนหนังสือลับมาก  ด่วนที่สุด ที่ กค 0521(ส)/ร 2640 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2560  เรื่องการประเมินราคารถยนต์สี่ยี่ห้อ  ที่กำหนดเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินราคารถยนต์สี่ยี่ห้อต่างไปจากคำสั่งกรมศุลกากรที่ 317/2547   และระหว่างพิจารณาคดีให้ศาลมีคำสั่งระงับ  ไม่ให้กรมศุลกากรใช้วิธีการในการประเมินราคารถตามหนังสือดังกล่าว โดยใช้เวลากว่าสามชั่วโมง และจะมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป

นายชัยยุทธ คำคุณ  รองอธิบดีกรมศุลกากร  และโฆษกกรมศุลกากร   เปิดเผยว่า ได้ชี้แจงต่อศาลว่า การดำเนินการของกรมศุลกากรในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา  ไม่ใช่คำสั่งกำหนดราคาประเมิน แต่เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ภายในให้เจ้าหน้าที่ใช้สำหรับตรวจสอบ  เวลาที่ผู้ประกอบการสำแดงการนำเข้า โดยข้อมูลที่นำมาใช้ได้มาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  ที่ได้ข้อมูลจากประเทศต้นทางตามข้อตกลงระหว่างประเทศ สาเหตุที่ต้องปรับเกณฑ์เนื่องจากพบว่ามีการสำแดงเท็จถึง 257 คัน  ทำให้รัฐสูญรายได้จากภาษีถึง 4,200 ล้านบาท  จึงต้องสร้างเกณฑ์ใหม่เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายทั้งกับรัฐและผู้ประกอบการ  ที่หากตรวจพบภายหลังว่าสำแดงเท็จก็ต้องถูกดำเนินคดีฐานเลี่ยงภาษี  รวมทั้งจะกระทบไปถึงผู้ซื้อรถในฐานะผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย  


รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลกากรไม่ได้ใช่เกณฑ์การประเมินจากเว็ปไซต์ตามที่สมาคมฯเข้าใจ  และไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบล่วงหน้า เพราะเป็นเกณฑ์ภายในสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ามีการสำแดงเท็จหรือไม่ แต่ในส่วนของหลักเกณฑ์ใหญ่ตามคำสั่งที่ 317/2547 อยู่ในระหว่างการแก้ไข  ดังนั้นหากผู้ประกอบการสุจริตย่อมไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และยืนยันว่าการเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจพิจารณาเกณฑ์ราคาไม่ได้เป็นการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่หาผลประโยชน์ และยอมรับว่าการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ครอบคลุมเฉพาะการนำเข้าจากประเทศต้นทางบางประเทศ ยังมีช่องโหว่ให้ผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงด้วยการนำเข้าจากประเทศที่กรมศุลกากรยังไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ เพราะยังต้องคำนวณราคาจากเกณฑ์เดิม เนื่องจากยังไม่มีอัตราใหม่เทียบเคียง

ด้านตัวแทนผู้ประกอบการ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์ ร่วมมือทำตามนโยบายและประกาศต่าง ๆ ของกรมศุลกากรด้วยดีมาตลอด จึงขอความเห็นใจให้กรมศุลกากรแจ้งการรับราคาในอัตราที่เหมาะสม เป็นธรรม มีการกำหนดราคา ระยะเวลา ที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคมีเวลาปรับตัวกับราคาที่เปลี่ยนแปลงได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย