ก.อุตฯ ยืนยันญี่ปุ่นสนใจลงทุนอีอีซี

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กระทรวงอุตสาหกรรมระบุนักธุรกิจญี่ปุ่นสนใจลงทุนในอีอีซี พร้อมยืนยันอุตสาหกรรม 4.0 ไม่ทำให้คนตกงาน แต่อนาคตแรงงานอาจขาดแคลน


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากการที่นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (เมติ) นำคณะนักธุรกิจญี่ปุ่นมาดูลู่ทางการลงทุนในไทยโดยเฉพาะโครงการระเบียงเศษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ขณะนี้พบว่านักธุรกิจญี่ปุนให้ความสนใจถึงโอกาสการลงทุนและความร่วมมือกับภาครัฐและผู้ประกอบการไทย 

ส่วนเม็ดเงินลงทุนจะเข้ามาจริงจำนวนเท่าใดนั้น จะต้องรอการดำเนินการสืบเนื่องต่อจากไปสักระยะหนึ่ง เพราะการพิจารณาตัดสินใจลงทุนมีขั้นตอนที่จะต้องรอการติดต่อประสานงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ผ่านมามีการลงทุนไปแล้ว เช่น โครงการลงทุนผลิตรถยนต์ไฮบริดของบริษัทญี่ปุ่น เป็นต้น สำหรับระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์การลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายและการเกิดขึ้นของอุตสาหกรรม 4.0 และอีอีซี จะเกิดความร่วมมือและกิจกรรมต่อเนื่องไป 


ทั้งนี้ ได้ขอให้รัฐมนตรีเมติตั้งทีมทำงานร่วมกันพิจารณาขั้นตอนการดำเนินการ เช่น อุตสาหกรรม 4.0 การนำ Internet of Things (IOT) มาเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทย-ญี่ปุ่น ระบบโลจิสติกส์ และบิ๊กเดต้า โดยจะทำงานแนวลึก เช่น การเชื่อมโยงเอสเอ็มอีไทย-ญี่ปุ่นลักษณะพื้่นที่ต่อพื้นที่ มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกันการส่งเสริมให้จับมือกันทำตลาดจะมีขั้นตอนอย่างไร การพัฒนาบุคลากรที่จะเริ่มจากในพื้นที่อีอีซี อย่างโครงการ Flex campus และการพัฒนาบุคลากรสายอาชีพ เป็นต้น 

นายอุตตม กล่าวว่า ทางญี่ปุ่นขณะนี้มุ่งหวังให้ไทยเป็นประเทศที่พัฒนาห่วงโซ่มูลค่าการผลิตในแนวคิด conneted In dustry และศูนย์กลางพัฒนาบุคลากร ไม่เพียงประเทศไทยสามารถเชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาบุคลากรในกลุ่มประเทศ CLMV และอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงหรือ GMS และกลุ่มประเทศอาเซียนต่อไป ส่วนเรื่องแรงงานไทยที่ขณะนี้มีความเป็นห่วงว่าจะได้รับผลกระทบจากการนำหุ่นยนต์หรือรีะบบไอทีเข้ามาใช้นั้น จากการหารือเจ้าของโรงงานพบว่า โรงงานที่พัฒนาระบบมีการนำพนักงานไปเพิ่มทักษะและให้ไปทำงานส่วนอื่นที่สร้างมูลค่าเพิ่มมากกว่า ซึ่งในส่วนของประเทศไทยความท้าทายที่แท้จริง คือ ในอนาคตแรงงานจะไม่พอ จึงจำเป็นต้องนำเทคโลยี ระบบอัตโนมันและ IOT เข้ามาช่วย

ปัจจุบันนักลงทุนญี่ปุ่นจำนวนมากลงทุนในไทยอยู่แล้ว สำหรับโครงการอีอีซีคาดหวังว่านักลงทุนญี่ปุ่นจะมีการขยายธุรกิจเพิ่ม เนื่องจากรัฐบาลไทยส่งเสริมการลงทุนปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรม 4.0 นำสู่โอกาสใหม่ ๆ และการเดินทางมาเยือนของคณะนักธุรกิจญี่ปุ่นกว่า 570 คนครั้งนี้ก็จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่เกิดขึ้นตามมาในที่สุด ที่ตัดสินใจลงทุนเพิ่ม เช่น โตโยต้า ฮอนด้า และมิตซูบิชิ เป็นต้น ส่วนมาสด้าผู้บริหารเข้ามาหารือที่กระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว และหารือทีมงานกระทรวงอุตฯ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพราะมีเทคโนโลยีจะผลิตรถยนต์ในอนาคตเป็นยุทธศาสตร์ในเอเชีย จึงสนใจที่จะลงทุนเพิ่มขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการหารือ 


ส่วนนักลงทุนรายใหม่ การพบกันระหว่างนายกรัฐมนตรีและคณะนักลงทุนญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา นายกรฐมนตรีขอให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าโครงการขนาดใหญ่ โครงการอีอีซี ที่ต้องการให้มหามิตรอย่างญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนจะมีความต่อเนื่องแน่ เพราะอีอีซี มีการพัฒนากฎหมายขึ้นมารองรับ สำนักงานอีอีซีก็มีกฎหมายรับรอง รวมถึงกฎหมายสิทธิประโยชน์ใหม่ ๆ ส่วนอีกประเภทที่สะท้อนความต่อเนื่องของไทย คือ กฎหมายอำนวยความสะดวกนักลงทุน สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความมั่นใจนักลงทุนได้เพราะมีกฎหมายรองรับ นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายให้หน่วยงานรัฐบาลไทยต้องอำนวยความสะดวก หรือ Ease of doing business ด้วย รวมถึงมีกฏหมายยุทธศาสตร์ประเทศ 20 ปีที่แม้เปลี่ยนรัฐบาลก็จะต้องดำเนินการต่อไป การจะเปลี่ยนนโยบายไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย 

นายคณิต  แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กล่าวว่า การลงทุนในอีอีซี ที่ระบุว่าสำนักงานอีอีซี คาดว่าร้อยละ 80 เป็นการลงทุนโดยภาคเอกชนนั้น ยืนยันว่าจะมีการดูแลนักลงทุนอย่างเท่าเทียมกัน โดยในส่วนโครงสร้างพื้นฐานจะเปิดประมูลลักษณะ PPP โดยเปิดประมูลทั่วโลกมีนักลงทุนญี่ปุ่นสนใจลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้า พัฒนาท่าเรือ และพัฒนาสนามบิน อย่างไรก็ตาม ไทยเป็นประเทศเปิดรับการลงทุนจากทุกชาติไม่เฉพาะญี่ปุ่นเท่านั้น การที่นักลงทุนชาติอื่นจะเข้ามาลงทุนมากขี้นกว่าญี่ปุ่นนั้น ขณะนี้เริ่มมี เช่น ธุรกิจอากาศยาน โดยเป็นนักลงทุนจากสหรัฐและนักลงทุนจากสหภาพยุโรป ซึ่งให้ความสนใจเข้ามาลงทุนแล้วไม่เฉพาะนักลงทุนจากประเทศจีนเท่านั้น ส่วนที่ 2 การลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย สำนักงานอีอีซี หวังว่านักลงทุนญี่ปุ่นจะเป็นกลุ่มนักลงทุนหลัก และจากการรับฟังนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น พบว่าตามนโยบาย conneted In dustry ของรัฐบาลญี่ปุ่น ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมญี่ปุ่นจะมีการเชื่อมโยงการผลิตทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยเทคโนโลยีดิจิท้ล ดังนั้น โรงงานผลิตของญี่ปุ่นในประเทศไทยน่าจะดำเนินการเช่นกัน นอกจากนี้ เครือ SCG ยังจะมีการลงทุนกับทางญี่ปุ่น และการลงทุนด้านท่องเที่ยว  ทางญี่ปุ่นจะมีบทบาทมาก  ขณะนี้สำนักงานอีอีซี ได้ขอให้องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นทำการศึกษาว่าการลงทุนในอีอีซี นักลงทุนญี่ปุ่นได้ประโยชน์อะไร นักลงทุนต้องการอะไร และแผนที่จะร่วมกันกับไทยพัฒนาโครงการ EECD และโครการ EECI นอกจากนี้ ยังมีการลงนามกับฮิตาชิ ทำ BIG DATA

นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรมของ บมจ. อมตะคอร์ปอเรชัน ได้รับการยกระดับโดยปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับขยายพื้นที่ใหม่ในลักษณะสมาทซิตี้บนพื้นที่ 19 ตารางกิโลเมตร โดยร่วมกับสถาบันวิจัยญี่ปุ่น  เพื่อรองรับโรงงานญี่ปุ่นในนิคมฯและที่อยู่ใกล้ ๆ กับประเทศไทย สำหรับโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ร้อยละ 60 เป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ นอกจากนี้ ยังร่วมกับฮิตาชิสร้างสมาทแฟกตอรี  ระยะยาวนิคมอุตสาหกรรมอมตะหวังให้มีการตั้งโรงงานญี่ปุ่นในสมาร์ทซิตี้ 1,000 โรง ตอนนี้มี 700 โรงงาน แบ่งเป็นโรงงานด้านวิจัยและพัฒนาประมาณ 50 โรงงาน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

สยองหนุ่มลำปางเสียชีวิตบนรถทัวร์ พบติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ

ลำปาง 17 มิ.ย.- จากเหตุหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิตในรถทัวร์จากโคราชกลับบ้านที่ลำปางโดยที่เพื่อนร่วมทางไม่รู้ ผลชันสูตรพบติดเชื้อในกระแสเลือดจากโรคแบคทีเรียกินเนื้อ ที่เคยระบาดในญี่ปุ่น ซึ่งญาติยืนยันผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว แต่เคยเป็นงูสวัดจนลามไปที่หูและพบอาการขาบวมไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต ขณะที่แพทย์ระบุหากเกิดแผลมีโอกาสรับเชื้อแบคทีเรียจนเนื้อเน่าได้โดยเฉพาะกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ .-สำนักข่าวไทย

วันแรกห้ามคนไทยไปทำงาน “กาสิโน-สถานบันเทิง” ปอยเปต

กัมพูชา 17 มิ.ย. – ติดตามบรรยากาศวันแรกของการยกระดับมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามไปที่กาสิโนฝั่งกัมพูชา ที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดระหว่างไทยและกัมพูชา สำหรับวันแรกของมาตรการยกระดับตามคำสั่งกองกำลังบูรพาที่ห้ามไม่ให้คนไทยข้ามไปบ่อนและคาสิโนฝั่งกัมพูชาทั้งคนที่จะข้ามไปทำงานและเล่นการพนัน ในช่วงเช้าก่อนที่จะทราบมาตรการ พบมีคนไทยจำนวนมากนั่งต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองยาวไปจนถึงตลาดโรงเกลือระยะทาง 2 กิโลเมตร แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงมาตรการที่มีการยกระดับและให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินปรากฏว่าคนไทยที่นั่งต่อแถวได้แยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้หลังการยกระดับคำสั่งของกองกำลังบูรพาพบว่าจากเดิมที่มีคนไทยข้ามไปฝั่งปอยเปตเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน วันนี้ปรากฏว่าเป็นคนไทยเดินทางข้ามไปเป็นความบังเอิญที่ตัวเลขทั้งข้ามไปโดย Flowing Pass หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวและข้ามไปโดยพาสปอร์ตมีตัวเลขตรงกันคือมีข้ามไปเพียงอย่างละ 196 คนเท่านั้น โดยมีรายงานว่าสำหรับคนที่ไม่ได้ข้ามไป ถ้าเป็นคนในพื้นที่ที่เคยข้ามไปทำงาน บางส่วนก็กลับไปที่บ้านพัก แต่สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางข้ามไปกาสิโนฝั่งกัมพูชา บางส่วนก็เดินทางกลับต้นทาง แต่บางส่วนที่หวังว่า อาจมีการผ่อนคลายมาตรการ ก็เปิดรีสอร์ตหรือห้องพักต่างๆ ใกล้เคียงด่านเป็นที่พำนัก ทำให้ขณะนี้รีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีผู้เข้าพักเต็มในหลายที่ด้วยกัน พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้และถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ดังนั้นประชาสัมพันธ์ถึงคนไทยที่อยู่ในฝั่งปอยเปตให้รีบเดินทางกลับมายังฝั่งไทยส่วนคนไทยที่จะเดินทางข้ามไปอย่างกัมพูชาหากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง ทั้งนี้สำหรับการรองรับหลังมีการควบคุมบริเวณด่านพรมแดนไม่ข้ามไปยังบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา พบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจตระเวนชายแดนและทหารพรานคุมเข้มตั้งแต่ต้นน้ำ และมีรายงานว่ามีการวางกำลังตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาในเขตจังหวัดสระแก้วเช่น เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติเพื่อเข้าไปยังประเทศกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

บอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท กทม.-บางกิจการ ตจว.

กทม. 17 มิ.ย.-แรงงานเฮ! ก.แรงงาน ขับเคลื่อนสำเร็จ “ปลัดบุญสงค์” เผยบอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท พื้นที่กรุงเทพฯ และบางกิจการในต่างจังหวัด เริ่ม 1 ก.ค.นี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้น ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ในหลายพื้นที่และกลุ่มกิจการทั่วประเทศ โดยถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับแรงงานไทย ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มุ่งให้แรงงานไทยมีค่าจ้างที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มติของที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล รวม 15 คน มีเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 โดยกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ดังนี้•พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ทั่วพื้นที่•ต่างจังหวัด ปรับค่าแรง 400 บาท […]

นายกฯ เผยพร้อมอพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน

พรรคเพื่อไทย 17 มิ.ย.-นายกฯ ย้ำความพร้อมหลังสถานทูตฯ สั่งคนไทยอพยพออกจากกรุงเตหะราน ปัดตอบ “อนุทิน” เตรียมเป็นฝ่ายค้าน หากยึดมหาดไทยคืน เมื่อเวลา 16.45 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ออกแถลงการณ์อพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน หลังจากสถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง แต่เดี๋ยวจะเช็กเลย น่าจะอพยพแล้ว เพราะเตรียมการไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หากกระทรวงมหาดไทยไม่ได้อยู่กับพรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับในทันที.-316.-สำนักข่าวไทย