เจโทรแนะไทยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

กรุงเทพฯ  12 ก.ย. – เจโทรแนะไทยพัฒนาบุคลากร กระทรวงพาณิชย์พร้อมอำนวยความสะดวกการค้าและเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนในกลุ่มประเทศอาเซียน 


กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย จัดสัมมนา Symposium on Thailand 4.0 towards Connected Industries เพื่อนำเสนอโอกาสความร่วมมือภาครัฐภาคเอกชน 

นายฮิโรยูกิ อิชิเกะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กล่าวว่า ประเทศไทยและญี่ปุ่น มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างมาก ที่ผ่านมาเจโทร จัดงานซิมโปเซียมและเชิญนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไปเยือนที่กรุงโตเกียว ได้รับความสนใจมีนักธุรกิจร่วมงาน 1,000 คน และงานวันนี้ก็เช่นกันนักธุรกิจญี่ปุ่นให้ความสนใจมากในการจัดงานเนื่องในโอกาสที่ปีนี้ครบรอบ 130 ปีความสัมพันธ์ ไทย-ญี่ปุ่น ที่ผ่านมานักธุรกิจญี่ปุ่นลงทุนในไทยคิดเป็นมูลค่า  71,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมดในไทย และมีบริษัทญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยถึง 5,000 บริษัท มากที่สุดในโลก แต่ขณะนี้ไทยอยู่ในจุดเปลี่ยน จากโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลง โดยมีอัตราการเกิดต่ำและมีสัดส่วนประชากรที่เป็นผู้สูงวัยมากขึ้น ทำให้ไทยประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ส่งผลให้ในสายตาญี่ปุ่นประเทศเวียดนามผงาดขึ้นมา ซึ่งนักธุรกิจญี่ปุ่นเห็นถึงความคลุมเครือที่เกิดขึ้น และลดการลงทุนเซ็คเตอร์หลักในไทย


ทั้งนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นเห็นว่าจำเป็นต้องพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีระดับการพัฒนาที่สูงขึ้น และขณะนี้อยู่ระหว่างทางแยกที่สำคัญ ขณะที่รัฐบาลไทยออกนโยบายประเทศไทย 4.0 และมีโครการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี และประเทศไทยจะต้องเป็นศูนย์กลางการส่งออกสำคัญไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น นักลงทุนควรที่จะต้องย้ายการผลิตสินค้าทั่วไปไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไทยควรเป็นฐานการผลิตผลิตภัณฑ์หรือชิ้นส่วนที่มีมูลค่าสูง แต่จะทำได้หรือไม่ จะมีปัญหาอะไรนั้น เรื่องที่จะต้องทำ เช่น  ต้องพัฒนาทรัพยากรบุคคล ซึ่งทางบริษัทญี่ปุ่นในไทยแจ้งเจโทรว่า กิจการที่ลงทุนในไทยมักมีปัญหาเรื่องการจ้างบุคลากร โดยไทยประสบปัญหานี้เป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น ไทยจะต้องเดินหน้าเสริมสร้างด้านบุคลากร ซึ่งแน่นอนว่าระยะสั้นต่างชาติเข้ามาให้การช่วยบ่มเพาะในไทยได้ โดยอาศัยศูนย์วิจัยและพัฒนาในอีอีซี  ทั้งนี้ ในส่วนของนักธุรกิจญี่ปุ่นต้องการให้ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงหรือ GMS เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ ซึ่งไทยจะต้องเชื่อมโยงแหลมฉบับไปยังท่าต่าง ๆ และด้านพิธีการศุลกากร จะต้องมีความสะดวก โดยต้องการเห็นรูปแบบเปเปอร์เลสหรือระบบไร้กระดาษ ประเทศไทยต้องแก้ปัญหาเหล่านี้่

นายอิชิเกะ กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นจะสร้างนวัตกรรมใหม่ โดยร่วมกันระหว่างบริษัทไทยและญี่ปุ่น เช่น คอนเน็ตเต็ดอินดสตรี ซึ่งจะเริ่มนำร่องจาก 4 บริษัท ที่ได้มีข้อตกลงกันแล้วในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยจะเป็นโครงการนำร่องและจะเป็นกุญแจสำคัญกำหนดอนาคตที่สดใสและการจัดการจับคู่ธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น จะมีมากขึ้น ด้านการพัฒนาบุคลากร ทางญี่ปุ่น จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสร้างบุคลากรในไทย สุดท้ายเพื่อให้คณะกรรมการอีอีซี ทำงานดียิ่งขึ้น ทางญี่ปุ่นจะตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาอีอีซี ในเจซีซี กรุงเทพ  ทั้งนี้ อยากให้ไทยรับฟังคำร้องขอของนักธุรกิจญี่ปุ่นเรื่องการให้คำมั่นสัญญาที่แข็งแกร่งจากรัฐบาลไทยและหวังว่าการสัมมนาวันนี้จะเชื่อมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและญี่ปุ่น ซึ่งการจับคู่ธุรกิจจะช่วยสร้างความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่นายรัฐมนตรีแจ้งนักลงทุนญี่ปุ่น เพื่อให้ไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ลดความผันผวน สามารถก้าวทันโลก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องก้าวสู่เศรษฐกิจใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านการขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0 ทั้งนี้ ประเทศไทยและญี่ปุ่นตกลงร่วมกันดำเนินการ 3 เรื่อง คือ  1.การร่วมกันขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งประเทศไทยกำหนด 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อเป็นหัวจักรใหม่ทางเศรษฐกิจของไทย  2.ไทยและญี่ปุ่นจะร่วมกันพัฒนาเอสเอ็มอี โดยมีการกำหนดเป้าหมายร่วมกัน เพื่อสนับสนุนโดยใช้จุดเด่นของไทย เพื่อร่วมกันเข้าถึงตลาดใหม่ในภูมิภาคนอกจากประเทศของตัวเอง ตามแนวทางอุตสาหกรรม 4.0 และคอนเน็ตเต็ดอินดัสตรี ซึ่งจะนำโอกาสร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศอย่างมากและก้าวออกไปสู่ตลาด CLMV และออกสู่ตลาดโลกต่อไป


3. ร่วมกันพัฒนาอีอีซี ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลไทย ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนหลายประเทศ ซึ่งคณะนักธุรกิจญี่ปุ่นที่เดินทางมาใหญ่ที่สุด ซึ่งจะมีโอกาสร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายร่วมกัน รวมถึงพัฒนาสร้างอุตสาหกรรมใหม่ เช่น อุตสาหกรรมสุขภาพ การดูแลผู้สูงวัย รถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการแพทย์ และยังมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการลงทุนรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา โดยการลงทุนโครงการหลัก 4 โครงการ จะเริ่มรูปธรรมปีหน้า โดยการลงทุนในอีอีซี จะมีวงเงินรวม  43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 5 ปีนับจากนี้ไป โดยร้อยละ 80 เป็นการลงทุนจากภาคเอกชน ที่เหลือร้อยละ  20 เป็นการลงทุนโดยภาครัฐภายใต้รูปแบบพีพีพีแต่ละอุตสาหกรรม  นอกจากนี้ ไทยและญี่ปุ่นยังจะร่วมกันพัฒนาบุคลากรเพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่จะมีการลงทุนในพื้นที่อีอีซี รวมถึงงานวิจัยอีกด้วย

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตามที่คณะนักธุรกิจญี่ปุ่นเดินทางมาไทยรวม 429 บริษัท รวม 588 ราย และสื่อมวลชน 22 ราย เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นในโอกาสครบรอบ 130 ปีความสัมพันธ์สองประเทศในวันที่  26 กันยายนนี้ และข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่นหรือเจเทปา ที่จะครบรอบ  10 ปี วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เช่นกัน สำหรับการเยือนของคณะนักธุรกิจญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศให้แนบแน่น ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ตระหนักถึงการอำนวยความสะดวกการค้า จึงปรับปรุงระเบียบการค้าต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักธุรกิจ และจะเป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจต่อไป สำหรับช่วงการสัมมนาวันนี้นักธุรกิจไทยและญี่ปุ่น 1,200 ราย จะได้พบปะหารือกันแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ร่วมกันและมิตรภาพที่ยาวนาน กระทรวงพาณิชย์พร้อมเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนการค้า การลงทุนในกลุ่มประเทศในอาเซียนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบ ผอ.กองช่าง เรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก

ปทุมธานี 11 ก.ย. – หลักฐานคาโต๊ะ! ป.ป.ช. สนธิกำลังตำรวจ บุกจับ ผอ.กองช่างเทศบาลหลักหก จ.ปทุมธานี คาห้องทำงาน พร้อมเงินสดของกลาง 1.9 แสนบาท หลังเรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก 8 ชั้น ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างผู้เสียหายนำมาให้เอง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ภาค 1 นำโดย น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 วางแผนร่วมกับชุดสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. และตำรวจสืบสวนภูธรภาค นำหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าตรวจค้น พร้อมจับกุมนายวีระเชษฐ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จ.ปทุมธานี ภายในห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร พร้อมตรวจยึดเงินของกลาง ซุกซ่อนอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชักโต๊ะทำงาน 190,000 บาท เบื้องต้นจากการตรวจหมายเลขธนบัตร ตรงกับสำเนาธนบัตรที่ผู้เสียหายนำไปมอบให้กับนายวีระเชษฐ์ ก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน […]

ปิดล้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ หลังปะทะเดือดสะบ้าย้อย 2 ระลอก

สงขลา 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก พบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีความมั่นคง หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ วางกำลังบนถนนเส้นทางเข้าออกพื้นที่ปะทะ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตปะทะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปิดล้อมบริเวณเนินเขา เพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดและกระเป๋าเป้ถูกทิ้งไว้บนเนินเขา บริเวณจุดปะทะ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า เป็นกลุ่มของนายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งมีหมายจับ 7 หมาย และนายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับ […]

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]