เจโทรแนะไทยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

กรุงเทพฯ  12 ก.ย. – เจโทรแนะไทยพัฒนาบุคลากร กระทรวงพาณิชย์พร้อมอำนวยความสะดวกการค้าและเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนในกลุ่มประเทศอาเซียน 


กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย จัดสัมมนา Symposium on Thailand 4.0 towards Connected Industries เพื่อนำเสนอโอกาสความร่วมมือภาครัฐภาคเอกชน 

นายฮิโรยูกิ อิชิเกะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กล่าวว่า ประเทศไทยและญี่ปุ่น มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างมาก ที่ผ่านมาเจโทร จัดงานซิมโปเซียมและเชิญนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไปเยือนที่กรุงโตเกียว ได้รับความสนใจมีนักธุรกิจร่วมงาน 1,000 คน และงานวันนี้ก็เช่นกันนักธุรกิจญี่ปุ่นให้ความสนใจมากในการจัดงานเนื่องในโอกาสที่ปีนี้ครบรอบ 130 ปีความสัมพันธ์ ไทย-ญี่ปุ่น ที่ผ่านมานักธุรกิจญี่ปุ่นลงทุนในไทยคิดเป็นมูลค่า  71,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมดในไทย และมีบริษัทญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยถึง 5,000 บริษัท มากที่สุดในโลก แต่ขณะนี้ไทยอยู่ในจุดเปลี่ยน จากโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลง โดยมีอัตราการเกิดต่ำและมีสัดส่วนประชากรที่เป็นผู้สูงวัยมากขึ้น ทำให้ไทยประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ส่งผลให้ในสายตาญี่ปุ่นประเทศเวียดนามผงาดขึ้นมา ซึ่งนักธุรกิจญี่ปุ่นเห็นถึงความคลุมเครือที่เกิดขึ้น และลดการลงทุนเซ็คเตอร์หลักในไทย


ทั้งนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นเห็นว่าจำเป็นต้องพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีระดับการพัฒนาที่สูงขึ้น และขณะนี้อยู่ระหว่างทางแยกที่สำคัญ ขณะที่รัฐบาลไทยออกนโยบายประเทศไทย 4.0 และมีโครการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี และประเทศไทยจะต้องเป็นศูนย์กลางการส่งออกสำคัญไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น นักลงทุนควรที่จะต้องย้ายการผลิตสินค้าทั่วไปไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไทยควรเป็นฐานการผลิตผลิตภัณฑ์หรือชิ้นส่วนที่มีมูลค่าสูง แต่จะทำได้หรือไม่ จะมีปัญหาอะไรนั้น เรื่องที่จะต้องทำ เช่น  ต้องพัฒนาทรัพยากรบุคคล ซึ่งทางบริษัทญี่ปุ่นในไทยแจ้งเจโทรว่า กิจการที่ลงทุนในไทยมักมีปัญหาเรื่องการจ้างบุคลากร โดยไทยประสบปัญหานี้เป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น ไทยจะต้องเดินหน้าเสริมสร้างด้านบุคลากร ซึ่งแน่นอนว่าระยะสั้นต่างชาติเข้ามาให้การช่วยบ่มเพาะในไทยได้ โดยอาศัยศูนย์วิจัยและพัฒนาในอีอีซี  ทั้งนี้ ในส่วนของนักธุรกิจญี่ปุ่นต้องการให้ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงหรือ GMS เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ ซึ่งไทยจะต้องเชื่อมโยงแหลมฉบับไปยังท่าต่าง ๆ และด้านพิธีการศุลกากร จะต้องมีความสะดวก โดยต้องการเห็นรูปแบบเปเปอร์เลสหรือระบบไร้กระดาษ ประเทศไทยต้องแก้ปัญหาเหล่านี้่

นายอิชิเกะ กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นจะสร้างนวัตกรรมใหม่ โดยร่วมกันระหว่างบริษัทไทยและญี่ปุ่น เช่น คอนเน็ตเต็ดอินดสตรี ซึ่งจะเริ่มนำร่องจาก 4 บริษัท ที่ได้มีข้อตกลงกันแล้วในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยจะเป็นโครงการนำร่องและจะเป็นกุญแจสำคัญกำหนดอนาคตที่สดใสและการจัดการจับคู่ธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น จะมีมากขึ้น ด้านการพัฒนาบุคลากร ทางญี่ปุ่น จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสร้างบุคลากรในไทย สุดท้ายเพื่อให้คณะกรรมการอีอีซี ทำงานดียิ่งขึ้น ทางญี่ปุ่นจะตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาอีอีซี ในเจซีซี กรุงเทพ  ทั้งนี้ อยากให้ไทยรับฟังคำร้องขอของนักธุรกิจญี่ปุ่นเรื่องการให้คำมั่นสัญญาที่แข็งแกร่งจากรัฐบาลไทยและหวังว่าการสัมมนาวันนี้จะเชื่อมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและญี่ปุ่น ซึ่งการจับคู่ธุรกิจจะช่วยสร้างความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่นายรัฐมนตรีแจ้งนักลงทุนญี่ปุ่น เพื่อให้ไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ลดความผันผวน สามารถก้าวทันโลก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องก้าวสู่เศรษฐกิจใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านการขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0 ทั้งนี้ ประเทศไทยและญี่ปุ่นตกลงร่วมกันดำเนินการ 3 เรื่อง คือ  1.การร่วมกันขับเคลื่อนสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งประเทศไทยกำหนด 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อเป็นหัวจักรใหม่ทางเศรษฐกิจของไทย  2.ไทยและญี่ปุ่นจะร่วมกันพัฒนาเอสเอ็มอี โดยมีการกำหนดเป้าหมายร่วมกัน เพื่อสนับสนุนโดยใช้จุดเด่นของไทย เพื่อร่วมกันเข้าถึงตลาดใหม่ในภูมิภาคนอกจากประเทศของตัวเอง ตามแนวทางอุตสาหกรรม 4.0 และคอนเน็ตเต็ดอินดัสตรี ซึ่งจะนำโอกาสร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศอย่างมากและก้าวออกไปสู่ตลาด CLMV และออกสู่ตลาดโลกต่อไป


3. ร่วมกันพัฒนาอีอีซี ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลไทย ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนหลายประเทศ ซึ่งคณะนักธุรกิจญี่ปุ่นที่เดินทางมาใหญ่ที่สุด ซึ่งจะมีโอกาสร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายร่วมกัน รวมถึงพัฒนาสร้างอุตสาหกรรมใหม่ เช่น อุตสาหกรรมสุขภาพ การดูแลผู้สูงวัย รถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการแพทย์ และยังมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการลงทุนรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา โดยการลงทุนโครงการหลัก 4 โครงการ จะเริ่มรูปธรรมปีหน้า โดยการลงทุนในอีอีซี จะมีวงเงินรวม  43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 5 ปีนับจากนี้ไป โดยร้อยละ 80 เป็นการลงทุนจากภาคเอกชน ที่เหลือร้อยละ  20 เป็นการลงทุนโดยภาครัฐภายใต้รูปแบบพีพีพีแต่ละอุตสาหกรรม  นอกจากนี้ ไทยและญี่ปุ่นยังจะร่วมกันพัฒนาบุคลากรเพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่จะมีการลงทุนในพื้นที่อีอีซี รวมถึงงานวิจัยอีกด้วย

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตามที่คณะนักธุรกิจญี่ปุ่นเดินทางมาไทยรวม 429 บริษัท รวม 588 ราย และสื่อมวลชน 22 ราย เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นในโอกาสครบรอบ 130 ปีความสัมพันธ์สองประเทศในวันที่  26 กันยายนนี้ และข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่นหรือเจเทปา ที่จะครบรอบ  10 ปี วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เช่นกัน สำหรับการเยือนของคณะนักธุรกิจญี่ปุ่นครั้งนี้เป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศให้แนบแน่น ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ตระหนักถึงการอำนวยความสะดวกการค้า จึงปรับปรุงระเบียบการค้าต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักธุรกิจ และจะเป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจต่อไป สำหรับช่วงการสัมมนาวันนี้นักธุรกิจไทยและญี่ปุ่น 1,200 ราย จะได้พบปะหารือกันแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ร่วมกันและมิตรภาพที่ยาวนาน กระทรวงพาณิชย์พร้อมเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนการค้า การลงทุนในกลุ่มประเทศในอาเซียนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

เสริมเขี้ยวเล็บ! ทัพเรือรับมอบปืนใหญ่ ระยะยิง 40 กม.

ชลบุรี 21 ส.ค.- กองทัพเรือเสริมเขี้ยวเล็บ! รับมอบปืนใหญ่ 155 มิลลิเมตร แบบอัตตาจร ระยะยิง 40 กม. เพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันและรักษาอำนาจอธิปไตยของประเทศ วันนี้ 21 ส.ค.68 ที่หน้ากองบัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ) รับมอบปืนใหญ่ ขนาด 155 มิลลิเมตร แบบอัตราจรล้อยาง จากศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์อุตสหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร จำนวน 6 กระบอก โดยมี พลเรือโท ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล รองเสนาธิการทหารเรือและประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาปืนใหญ่ฯ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนข้าราชการ กำลังพล เข้าร่วมในพิธี  การดำเนินโครงการจัดหาปืนใหญ่ ขนาด 155 มิลลิเมตร แบบอัตตาจร ล้อยาง (ATMG) นับเป็นการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างกำลังรบหลักของ ทร. เพื่อให้ […]

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ย้ำ กทม.ไม่กระทบโครงสร้าง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – กรมทรัพยากรธรณี เผยเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ความลึก 10 กม. เกิดจากการเคลื่อนตัวแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของเมียนมา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 500 กม. ด้านสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ เตือนอย่าตื่นตระหนก คนกรุงบนตึกสูงรู้สึกสั่น แต่ไม่กระทบโครงสร้าง กรมทรัพยากรธรณีชี้แจงกรณีแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 09.58 น. ตามเวลาประเทศไทย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 500 กิโลเมตร การตรวจสอบพบว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของ “รอยเลื่อนสะกาย” แนวระนาบเหลื่อมขวา (right-lateral strike-slip fault) ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนที่เฉลี่ยปีละ 2 เซนติเมตร รอยเลื่อนนี้เคยสร้างแผ่นดินไหวใหญ่หลายครั้ง อาทิ ปี 2473 ขนาด 7.3 มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และเมื่อ 28 […]

นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี ศาล รธน.นัดชี้ชะตา 29 ส.ค.

ศาลรัฐธรรมนูญ 21 ส.ค.- นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี หลังไต่สวนคดีคลิปเสียงเสร็จ ประชาชนตะโกน “นายกฯ สู้ๆ” ด้านศาล รธน. นัดอ่านคำวินิจฉัยคดี 29 ส.ค. ย้ำ ห้ามเผยแพร่ข้อมูลและห้ามบิดเบือน ภายหลังการไต่สวนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที คดีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง โดยนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ศาลได้บันทึกเสียงและภาพการไต่สวนแล้ว และย้ำอีกครั้งว่า ห้ามผู้เข้าฟังการไต่สวน นำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามมิให้บิดเบือนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ศาลได้สั่งให้คู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค. จากเดิมให้ยื่น 27 ส.ค. ซึ่งหากไม่ยื่นจะถือว่าไม่ติดใจ และนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติ วันที่ 29 ส.ค. เวลา 09.30 น. นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันเดียวกัน เวลา 15.00 […]

แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งคุมเข้ม หลังเหตุคาร์บอมบ์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

นราธิวาส 21 ส.ค. – ความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อคืนที่ผ่านมา อส.บาดเจ็บ 6 นาย แม่ทัพภาคที่ 4 รุดตรวจที่เกิดเหตุ สั่งปิดช่องทางหลบหนี คุมเข้มแนวชายแดน ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุคาร์บอมบ์เมื่อคืนนี้ ช่วงเวลา 20.20 น. บริเวณหน้า จุดตรวจ/จุดสกัด ฐาน ชคต.ศาลาใหม่ ม.1 บ้านโคกมะเฟือง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุใช้รถยนต์ Toyota Yaris สีดำ บรรทุกวัตถุระเบิด ขับเข้าพุ่งชนแนวกระสอบทรายบริเวณดังกล่าว ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดส่งผลให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร (อส.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ในฐานได้ยิงตอบโต้เพื่อสกัดกั้นเส้นทางของคนร้าย หลังเกิดเหตุ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน.ภาค 4 สั่งการเร่งด่วนให้หน่วยกำลังในพื้นที่ปฏิบัติตามแผนสกัดกั้น ประสานทุกภาคส่วนร่วมปิดล้อมตรวจสอบเส้นทาง […]