พังงา 11 ก.ย.-คดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่พังงา ตำรวจยังคงหาหลักฐานเพิ่มเติม เร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ขณะที่นักกฎหมายเด็กและเยาวชนแนะช่องทางสืบพยานก่อนฟ้องคดี เพื่อความปลอดภัยของผู้เสียหายและพยาน ติดตามจากรายงานพิเศษ “ถอดบทเรียนคดีล่วงละเมิดเด็กหญิง 14 ปี” ตอนที่ 2
คดีเด็กหญิงอายุ14 ปี ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ที่เกาะแรด จ.พังงา เป็นที่จับตาของหลายฝ่าย โดยเฉพาะตัวผู้เสียหายที่ยังเป็นเด็ก อยู่ในชุมชนขนาดเล็กที่ทุกบ้านจะรู้จักกัน ทำให้เด็กเกิดภาวะเครียด
นักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชนที่ทำคดีเกี่ยวกับเด็กมามากว่า 10 ปี ระบุคดีนี้มีความพยายามบิดเบือนข้อมูลให้เด็กที่เป็นผู้ถูกกระทำ ขาดความน่าเชื่อถือ หรือมองว่าเด็กโกหก ขณะที่คดีนี้มีคณะกรรมการระดับจังหวัดดูแล มีทั้งผู้ที่เชี่ยวชาญในการทำคดีเด็กและเยาวชน และมีทั้งที่เป็นกรรมการตามตำแหน่งในหน่วยงาน แต่ยังขาดความรู้ความเข้าใจการทำคดีเกี่ยวกับเด็ก ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยบางเรื่องอาจทำให้ผู้ต้องสงสัยรู้ตัว เกิดความไม่ปลอดภัยในตัวเด็กและครอบครัว และอาจส่งผลต่อการพิจารณาในชั้นศาล
ตามประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความอาญา มาตรา 237 ทวิ สามารถร้องขอต่อศาลให้มีการนำสืบพยาน ก่อนฟ้องคดีได้ หากเชื่อได้ว่าอาจจะมีการยุ่งเหยิงกับพยาน และมีเหตุจำเป็นทำให้ยากต่อการนำพยานมาสืบภายหน้า โดยผู้เสียหายสามารถร้องขอต่อศาลเอง และผู้ต้องหาสามารถส่งทนายมายื่นซักค้านการสืบพยานได้
ด้านผู้อำนวยการบ้านกาญจนาภิเษกเห็นว่า แม้กฎหมายกำหนดเรื่องการคุ้มครองพยานไว้แล้ว แต่เน้นเฉพาะเรื่องความปลอดภัยทางร่างกาย ส่วนค่าเสียโอกาส ยังไม่มีความชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น จะทำอย่างไรให้ข้อมูลข้อเท็จจริงในตัวพยานและผู้เสียหายยังคงอยู่ เพราะจะเป็นสิ่งสำคัญต่อการตัดสิน
ผอ.บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวด้วยว่า สุดท้ายจำเป็นดูแลพยานและผู้เสียหายที่บางทีไม่อาจกลับเข้าไปอยู่ในชุมชนเดิมได้อีก อาจถึงขั้นต้องเปลี่ยนชื่อเปลียนที่อยู่ใหม่ให้พวกเขา เพื่อให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย