ปลัดคลังขอธปท.ลดดอกเบี้ยหนุนนโยบายการคลัง

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – ปลัดคลัง วอน ธปท. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายให้สอดคล้องนโยบายการคลัง จูงใจนักลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง


นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “นโยบายการคลัง พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2560” เปิดเผยว่า นโยบายการเงินและนโยบายการคลังต้องสอดคล้องไปพร้อมกัน โดยกระทรวงการคลังได้มีนโยบายการคลังผ่านออกมาตรการต่างๆ ไปมากแล้ว ขอความร่วมมือให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีนโยบายการเงินที่ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพราะขณะนี้อัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าแล้ว และที่ผ่านมามีเงินเข้ามาในตลาดไทยตั้งแต่ 60,000 ถึง 100,000 ล้านบาท จึงไม่น่าเป็นห่วงหากลดดอกเบี้ยแล้วจะทำให้เงินเฟ้อเกินเป้า รวมทั้งดอกเบี้ยนโยบายของไทยขณะนี้ยังสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน  รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น เพื่อรองรับกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งจะทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีบทบาทความสำคัญมากขึ้น 

ส่วนที่ผ่านมาทางกระทรวงการคลัง ได้มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการทำนโยบายแบบขาดดุล ในปีงบประมาณ 2560 ถึง 390,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนในปีงบประมาณ 2561 ได้เตรียมฉีดเงินลงไปในระบบอีก 450,000 ล้านบาท  ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลสามารถทำได้ เนื่องจากสถานะทางการคลังไทยมีความแข็งแกร่ง และมีเครดิตที่ดี ประกอบกับทิศทางของเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ในระยะยาว ต้องอาศัยแรงส่งจากการลงทุนของภาคเอกชน ส่วนหนึ่งพยายามผลักดันสตาร์ทอัพให้อยู่รอดมากขึ้นจากปัจจุบันมีสตาร์ทอัพเกิดใหม่และอยู่รอดเพียง ร้อยละ 2  เท่านั้น และอาจจะต้องใช้มาตรา 44 เข้ามาช่วยผลักดัน


นอกจากนี้การฟื้นเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังให้ดีขึ้น กระทรวงการคลังยังได้สั่งการคลังจังหวัดประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดทำมาตรการระดับจังหวัด ช่วยเหลือหรือพัฒนาภาคเศรษฐกิจในจังหวัดให้เข้มแข็ง เพื่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวกระจายทั่วถึงทั้งประเทศ รวมทั้งให้ประชาชนฐานรากสามารถเลี้ยงชีพได้ ด้วยการลงทะเบียนสวัสดิการรัฐเพื่อรับสวัสดิการช่วยเหลือ และช่วยให้ประเทศก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง

พร้อมขอให้ภาคเอกชนสะท้อนความต้องการให้กระทรวงการคลังรับทราบเพื่อช่วยให้เกิดการลงทุนมากขึ้น หากกระทรวงการคลังสามารถทำได้จะรีบดำเนินการทันที แต่ยอมรับว่าภาครัฐได้พยายามปรับปรุงและปฏิรูปโดยเฉพาะกฎหมายให้อำนวยความสะดวกต่อการลงทุนมากขึ้นอย่างเต็มที่ อาทิ รัษฎากร อีก 2 เดือนจะปฏิรูปครั้งใหญ่ และมั่นใจว่ารายได้เข้าภาครัฐจากการจัดเก็บภาษีจะไม่ลดลง แต่การจัดเก็บภาษีส่วนอื่นจะลดลงจากผลกระทบจากความก้าวล้ำของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ที่ส่งผลต่อการจัดเก็บและฐานภาษี และกำลังหาผู้มีความสามารถเพื่อมาวางแผนการจัดเก็บภาษีและคำนวณฐานภาษีให้สอดคล้อง เช่น ภาษีน้ำมัน ที่รัฐเคยเก็บเป็นหลัก อาจจะน้อยลง เพราะประชาชนใช้น้ำมันน้อยลงจากเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มเข้ามาแทน


ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังพยายามเพิ่มรายได้จากหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้ประเทศมีรายได้มากกว่า ร้อยละ 10 ขณะที่รายได้ประทศจากการจัดเก็บภาษีมีสัดส่วนถึง ร้อยละ 90 ภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30 เหลือ 20 แต่ไม่คุ้มกับการลดตามความต้องการของนักลงทุน และยังไม่ผู้เลี่ยงภาษีอยู่ จึงต้องนำระบบบัญชีเดียวเข้ามาช่วยบังคับให้การจัดเก็บภาษีมีประสิทธิภาพ และจะทำให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกในการยื่นขอสินเชื่อ  รวมทั้งนโยบาย National E-Payment  ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่ภาคเอกชนยังไม่ตอบรับเท่าที่ควร โดยกระทรวงการคลังจะเดินหน้าโครงการต่อไปเพื่อให้การจัดเก็บภาษีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย