รู้จัก “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ช่วยผู้มีรายได้น้อย ใช้ที่ไหน-ทำอะไรได้บ้าง?

อสมท 7 ก.ย.-ภายหลังรัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอรับสวัสดิการตาม “โครงการประชารัฐสวัสดิการ การช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน


ยอดประชาชนที่มาลงทะเบียนเป็น “ผู้มีรายได้น้อย” ทั้งหมด 14,176,118 คน จำแนกตามระดับการศึกษา พบว่าส่วนใหญ่จบการศึกษาต่ำกว่า ป.6  มีถึง 5,777,702 คน รองลงมาเป็นผู้ที่จบ ป.6 มีอยู่ 3,075,817 คน ส่วนที่จบชั้น ม.3 มีจำนวน 1,572,943 คน จบชั้น ม.6 จำนวน 1,410,373 คน ขณะที่ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ได้เรียนหนังสือมีถึง 1,233,691 คน


ขณะที่ผู้ลงทะเบียนที่มีการศึกษาสูงกว่า ปวช.ขึ้นไป แบ่งเป็นผู้ที่จบระดับ ปวช.-ปวส. 568,730 คน ระดับอนุปริญญา 77,274 คน ระดับปริญญาตรีมีถึง 359,543 คน ซึ่งส่วนใหญ่จบมาแล้วยังว่างงานอยู่ เป็นที่น่าสังเกตคือ ยังมีผู้ที่จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีมาลงทะเบียนถึง 6,508 คน คือ ผู้ที่จบระดับปริญญาโทมาลงทะเบียนถึง 5,810 คน และจบระดับปริญญาเอก แต่ก็ยังมาลงทะเบียนถึง 698 คนทีเดียว ทั้งหมดกว่า 14 ล้านคนนี้ ไม่ระบุวุฒิการศึกษาในเอกสารถึง 93,537 คน

จากที่ลงทะเบียนไว้ ตรวจสอบประวัติต่างๆ และระดับรายได้แล้ว ตัดสิทธิไปราว 2.5 ล้านคน เพราะมีรายได้และทรัพย์สินเกิน 100,000 บาท แม้บางคนเป็นผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอก ที่มาลงทะเบียน แต่เมื่อคุณสมบัติตรงตามระเบียบ รายได้ต่ำกว่าเส้นยากจน ก็ได้รับสิทธิ เหลือผู้ที่มีคุณสมบัติตรง เป็นผู้มีรายได้น้อยรวม 11.67 ล้านคน


งบ “กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก” ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินไปแล้ว 50,000 ล้านบาท ใช้ไปกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 41,940 ล้านบาท/ปี หรือเฉลี่ย 3,615 ล้านบาท/เดือน

แบ่งเป็น 1) วงเงินรายเดือนเพื่อซื้อสินค้า มี 2 ระดับตามรายได้ ดังนี้ ผู้มีรายได้มากกว่า 30,000-100,000 บาท/ปี ได้รับวงเงินผ่านบัตร 200 บาท/เดือน หรือ 2,400 บาท/ปี ส่วนผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/ปี ได้รับวงเงินผ่านบัตร 300 บาท/เดือน หรือ 3,600 บาท/ปี

วงเงินส่วนนี้ใช้ได้ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าชุมชนกองทุนหมู่บ้าน และร้านที่ขึ้นทะเบียนกระทรวงพาณิชย์ไว้ ส่วนความกังวลการรูดซื้อเหล้า-บุหรี่นั้น กรมบัญชีกลางขอความร่วมมือ “งดจำหน่าย” เหล้า เบียร์ และบุหรี่ เพราะถือว่าเป็น “สิ่งไม่จำเป็นต่อการดำรงชีพ”

ตามแนวทางของ “ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ” จะจำหน่ายสินค้าแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเพื่อการศึกษา เช่น ชุดนักเรียน อุปกรณ์เครื่องเขียน และสินค้าปัจจัยการเกษตร เช่น ปุ๋ย อุปกรณ์เกษตร เท่านั้น ขณะนี้มีร้านค้าทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการแล้ว 4,506 แห่ง โดยจังหวัดที่มีร้านค้าเข้าร่วมมากที่สุด คือ อุดรธานี 315 แห่ง อุบลราชธานี 155 แห่ง ลำพูน 149 แห่ง และพิษณุโลก 123 แห่ง ร่านเหล่านี้จะมีสติกเกอร์ติดไว้ที่หน้าร้าน พร้อมเครื่องชำระเงินอัตโนมัติ (EDC) ไว้ตัดยอดเงินในบัตร โดยรัฐบาลจะชำระค่าสินค้าแทนผู้ถือบัตรให้ร้านค้าเป็นรายวัน โอนเงินเข้าบัญชีภายใน 3 วัน

บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ยังมีวงเงินส่วนที่ 2) คือ วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม จากร้านค้ากระทรวงพลังงาน 45 บาท 3 เดือน วงเงินที่ 3) วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. จำนวน 500 บาท/เดือน วงเงินที่ 4) วงเงินค่าโดยสารรถไฟ จำนวน 500 บาท/เดือน วงเงินที่ 5) วงเงินส่วนลดค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาท/เดือน

ทั้งนี้ หลังจากวันที่ 15 กันยายนนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนไว้สามารถตรวสอบรายชื่อว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่ที่เว็บไซต์ www.epayment.go.th หากมีรายชื่อก็รอรับบัตรได้เลย โดยจะมี 2 แบบ คือ แบบ 1 ชิป และ 2 ชิป โดยทั่วไปจะเป็นบัตร 1 ชิป ที่จะแจกจ่ายไปยังผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ

มาตรการครั้งนี้จะไม่รวมถึงการช่วยเหลือเรื่องค่าไฟฟ้าและน้ำประปา วงเงินทุกประเภทของบัตร หากแต่ละเดือนใช้ไม่หมดก็ไม่สามารถสะสมไปเดือนหน้าได้ เมื่อเต็มวงเงินก็ต้องรอเดือนถัดไป วงเงินในบัตรจะเข้ามาทุกวันที่ 1 ของเดือน ถ้า “บัตรหาย” เสียเงินค่าธรรมเนียมทำบัตรใหม่ โดยบัตร 1ชิป ค่าธรรมเนียม 50 บาท ส่วนบัตร 2 ชิป เสียค่าธรรมเนียม 100 บาท

ส่วนบัตร 2 ชิป คาดว่าจะใช้กับวงเงินส่วนที่ 4 และ 5 แจกให้ผู้มีรายได้น้อย ในกรุงเทพฯ และอีก 6 จังหวัด คือ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม ที่มีอยู่ประมาณ 1,370,000 คน เพื่อใช้กับบริการรถเมล์และรถไฟฟ้า ที่มีวงเงิน 500 บาท/เดือน แต่จะไม่สามารถเติมเงินลงไปในบัตรได้ หากเดินทางบ่อยครั้งอาจต้องมี “บัตรแมงมุม” แยกต่างหาก ซึ่งระบบตั๋วร่วมนี้ยังต้องรอความชัดเจนการหารือของกระทรวงคมนาคมกับหน่วยงานที่จะให้บริการตั๋วร่วมอีกครั้ง เพื่อลดความซ้ำซ้อนการใช้งานระหว่างบัตรสวัสดิการและบัตรแมงมุมในอนาคต

อย่างไรก็ตาม สศค.มีความเป็นห่วงว่าเงิน “กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก” เดิมมีอยู่ 46,000 ล้านบาท จะเหลือเพียง 5,000 ล้านบาท โดยงบประมาณราว 41,900 ล้านบาท ถูกใช้ไปในโครงการระยะแรกนี้ จำเป็นต้องเพิ่มเงินกองทุน เพื่อใช้กับโครงการในระยะที่ 2 หลังเดือนตุลาคมไปแล้ว เพื่อช่วยเหลือผู้รายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/ปี ผ่านการจัดฝึกอบรมสร้างอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ต่อไปในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย