รู้จัก “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ช่วยผู้มีรายได้น้อย ใช้ที่ไหน-ทำอะไรได้บ้าง?

อสมท 7 ก.ย.-ภายหลังรัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอรับสวัสดิการตาม “โครงการประชารัฐสวัสดิการ การช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน


ยอดประชาชนที่มาลงทะเบียนเป็น “ผู้มีรายได้น้อย” ทั้งหมด 14,176,118 คน จำแนกตามระดับการศึกษา พบว่าส่วนใหญ่จบการศึกษาต่ำกว่า ป.6  มีถึง 5,777,702 คน รองลงมาเป็นผู้ที่จบ ป.6 มีอยู่ 3,075,817 คน ส่วนที่จบชั้น ม.3 มีจำนวน 1,572,943 คน จบชั้น ม.6 จำนวน 1,410,373 คน ขณะที่ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ได้เรียนหนังสือมีถึง 1,233,691 คน


ขณะที่ผู้ลงทะเบียนที่มีการศึกษาสูงกว่า ปวช.ขึ้นไป แบ่งเป็นผู้ที่จบระดับ ปวช.-ปวส. 568,730 คน ระดับอนุปริญญา 77,274 คน ระดับปริญญาตรีมีถึง 359,543 คน ซึ่งส่วนใหญ่จบมาแล้วยังว่างงานอยู่ เป็นที่น่าสังเกตคือ ยังมีผู้ที่จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีมาลงทะเบียนถึง 6,508 คน คือ ผู้ที่จบระดับปริญญาโทมาลงทะเบียนถึง 5,810 คน และจบระดับปริญญาเอก แต่ก็ยังมาลงทะเบียนถึง 698 คนทีเดียว ทั้งหมดกว่า 14 ล้านคนนี้ ไม่ระบุวุฒิการศึกษาในเอกสารถึง 93,537 คน

จากที่ลงทะเบียนไว้ ตรวจสอบประวัติต่างๆ และระดับรายได้แล้ว ตัดสิทธิไปราว 2.5 ล้านคน เพราะมีรายได้และทรัพย์สินเกิน 100,000 บาท แม้บางคนเป็นผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอก ที่มาลงทะเบียน แต่เมื่อคุณสมบัติตรงตามระเบียบ รายได้ต่ำกว่าเส้นยากจน ก็ได้รับสิทธิ เหลือผู้ที่มีคุณสมบัติตรง เป็นผู้มีรายได้น้อยรวม 11.67 ล้านคน


งบ “กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก” ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินไปแล้ว 50,000 ล้านบาท ใช้ไปกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 41,940 ล้านบาท/ปี หรือเฉลี่ย 3,615 ล้านบาท/เดือน

แบ่งเป็น 1) วงเงินรายเดือนเพื่อซื้อสินค้า มี 2 ระดับตามรายได้ ดังนี้ ผู้มีรายได้มากกว่า 30,000-100,000 บาท/ปี ได้รับวงเงินผ่านบัตร 200 บาท/เดือน หรือ 2,400 บาท/ปี ส่วนผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/ปี ได้รับวงเงินผ่านบัตร 300 บาท/เดือน หรือ 3,600 บาท/ปี

วงเงินส่วนนี้ใช้ได้ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าชุมชนกองทุนหมู่บ้าน และร้านที่ขึ้นทะเบียนกระทรวงพาณิชย์ไว้ ส่วนความกังวลการรูดซื้อเหล้า-บุหรี่นั้น กรมบัญชีกลางขอความร่วมมือ “งดจำหน่าย” เหล้า เบียร์ และบุหรี่ เพราะถือว่าเป็น “สิ่งไม่จำเป็นต่อการดำรงชีพ”

ตามแนวทางของ “ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ” จะจำหน่ายสินค้าแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเพื่อการศึกษา เช่น ชุดนักเรียน อุปกรณ์เครื่องเขียน และสินค้าปัจจัยการเกษตร เช่น ปุ๋ย อุปกรณ์เกษตร เท่านั้น ขณะนี้มีร้านค้าทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการแล้ว 4,506 แห่ง โดยจังหวัดที่มีร้านค้าเข้าร่วมมากที่สุด คือ อุดรธานี 315 แห่ง อุบลราชธานี 155 แห่ง ลำพูน 149 แห่ง และพิษณุโลก 123 แห่ง ร่านเหล่านี้จะมีสติกเกอร์ติดไว้ที่หน้าร้าน พร้อมเครื่องชำระเงินอัตโนมัติ (EDC) ไว้ตัดยอดเงินในบัตร โดยรัฐบาลจะชำระค่าสินค้าแทนผู้ถือบัตรให้ร้านค้าเป็นรายวัน โอนเงินเข้าบัญชีภายใน 3 วัน

บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ยังมีวงเงินส่วนที่ 2) คือ วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม จากร้านค้ากระทรวงพลังงาน 45 บาท 3 เดือน วงเงินที่ 3) วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. จำนวน 500 บาท/เดือน วงเงินที่ 4) วงเงินค่าโดยสารรถไฟ จำนวน 500 บาท/เดือน วงเงินที่ 5) วงเงินส่วนลดค่าโดยสารรถเมล์ รถไฟฟ้า 500 บาท/เดือน

ทั้งนี้ หลังจากวันที่ 15 กันยายนนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนไว้สามารถตรวสอบรายชื่อว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่ที่เว็บไซต์ www.epayment.go.th หากมีรายชื่อก็รอรับบัตรได้เลย โดยจะมี 2 แบบ คือ แบบ 1 ชิป และ 2 ชิป โดยทั่วไปจะเป็นบัตร 1 ชิป ที่จะแจกจ่ายไปยังผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ

มาตรการครั้งนี้จะไม่รวมถึงการช่วยเหลือเรื่องค่าไฟฟ้าและน้ำประปา วงเงินทุกประเภทของบัตร หากแต่ละเดือนใช้ไม่หมดก็ไม่สามารถสะสมไปเดือนหน้าได้ เมื่อเต็มวงเงินก็ต้องรอเดือนถัดไป วงเงินในบัตรจะเข้ามาทุกวันที่ 1 ของเดือน ถ้า “บัตรหาย” เสียเงินค่าธรรมเนียมทำบัตรใหม่ โดยบัตร 1ชิป ค่าธรรมเนียม 50 บาท ส่วนบัตร 2 ชิป เสียค่าธรรมเนียม 100 บาท

ส่วนบัตร 2 ชิป คาดว่าจะใช้กับวงเงินส่วนที่ 4 และ 5 แจกให้ผู้มีรายได้น้อย ในกรุงเทพฯ และอีก 6 จังหวัด คือ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม ที่มีอยู่ประมาณ 1,370,000 คน เพื่อใช้กับบริการรถเมล์และรถไฟฟ้า ที่มีวงเงิน 500 บาท/เดือน แต่จะไม่สามารถเติมเงินลงไปในบัตรได้ หากเดินทางบ่อยครั้งอาจต้องมี “บัตรแมงมุม” แยกต่างหาก ซึ่งระบบตั๋วร่วมนี้ยังต้องรอความชัดเจนการหารือของกระทรวงคมนาคมกับหน่วยงานที่จะให้บริการตั๋วร่วมอีกครั้ง เพื่อลดความซ้ำซ้อนการใช้งานระหว่างบัตรสวัสดิการและบัตรแมงมุมในอนาคต

อย่างไรก็ตาม สศค.มีความเป็นห่วงว่าเงิน “กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก” เดิมมีอยู่ 46,000 ล้านบาท จะเหลือเพียง 5,000 ล้านบาท โดยงบประมาณราว 41,900 ล้านบาท ถูกใช้ไปในโครงการระยะแรกนี้ จำเป็นต้องเพิ่มเงินกองทุน เพื่อใช้กับโครงการในระยะที่ 2 หลังเดือนตุลาคมไปแล้ว เพื่อช่วยเหลือผู้รายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/ปี ผ่านการจัดฝึกอบรมสร้างอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ต่อไปในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ณัฐพงษ์” ยังไม่ตัดสินใจเลือก “เพื่อไทย” หรือ “ภูมิใจไทย”

กทม. 30 ส.ค.-“ณัฐพงษ์” หัวหน้าพรรคประชาชน ยันยังไม่ตัดสินใจเลือก “เพื่อไทย” หรือ “ภูมิใจไทย” แก้วิกฤตหาตัวนายกฯ คนใหม่ ย้ำจะรับพิจารณาเฉพาะพรรคที่มาพูดคุยด้วยตัวเองเท่านั้น รอลุ้นผลวันจันทร์นี้ พร้อมประกาศไม่เอา “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกฯ เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 30 ส.ค.2568 ที่โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการแสข่าวการดีลพรรคประชาชนให้ยกมือ สนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยภูมิใจ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ให้แลกตำแหน่งรัฐมนตรี 8 เก้าอี้ ว่า ยืนยันว่าไม่มีดีล ยืนยันว่าวัตถุประสงค์ของพรรคประชาชนคือต้องการใช้ 143 เสียง เพื่อผ่าทางตันทางการเมืองให้กับประเทศโดยที่เราไม่ร่วมรัฐบาล เราปฏิเสธไม่รับการเจรจาใต้โต๊ะ หรือหลังบ้านใดๆทั้งสิ้น หากไม่ได้ส่งกรรมการพรรคของพรรคเข้ามาพูดคุยกับตนหรือผู้บริหารพรรค เพื่อแสดงเจตจำนงหรือรับข้อเสนอรับไม่รับว่าเป็นข้อเสนอ ตอนนี้พรรคประชาชนยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ต้องใช้กระบวนการตัดสินใจจากกรรมการบริหารพรรคและ สส. ซึ่งจะมีการจัดขึ้นในวันจันทร์ ที่ 1 ก.ย.ช่วงบ่าย TOR ที่เราเปิดออกไปเป็นข้อเสนอที่ทุกพรรคที่ไม่สามารถรวมเสียงข้างมากได้ และจำเป็นต้องใช้เสียงของพรรคประชาชน […]

พบร่างผู้สูญหายเหตุดินถล่มบ้านปางอุ๋งเพิ่มอีก 2 รวมเสียชีวิต 7 ราย

เชียงใหม่ 30 ส.ค. – เจ้าหน้าที่นำสุนัข K9 เร่งค้นหาผู้สูญหายจากดินถล่มบ้านปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พบร่างเพิ่มอีก 2 ราย ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 7 ราย และยังสูญหายอีก 2 คน กำลังทหารกรมรบพิเศษที่ 5 พร้อมด้วยทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 พร้อมทีมกู้ภัยและอาสาสมัครนับร้อนาย รวมทั้งสุนัข K9 อีก 4 ตัวทั้ง นารี สีนวล ลิลลี่และซาฮาร่า ซึ่งผ่านการฝึกกู้ภัยและเคยผ่านการปฏิบัติงานค้นหาผู้สูญหายในช่วงอาคาร สตง. ถล่มมาแล้ว ออกค้นหาผู้สูญหายจากดินถล่ม ในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่กลางหุบเขาในตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ หลังดินโคลนถล่มเมื่อ 5 วันที่แล้ว ท่ามกลางความหวังของญาติพี่น้องผู้สูญหาย แต่ซากปรักหักพังดินโคลนที่ทับถมกันสูงกว่า 1 เมตร เป็นอุปสรรคสำหรับการค้นหา แต่ในที่สุดทีมค้นหาได้พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย เป็นหญิงชาวไทใหญ่วัย 25 ปี และเด็กชายวัย 6 […]

ชื่นมื่น เปิดภาพ “อนุทิน-ธรรมนัส”

กทม. 30 ส.ค.-ชื่นมื่น เปิดภาพ “อนุทิน-ธรรมนัส” ที่พรรคภูมิใจไทย ก่อนร่อนแถลงการณ์ หนุน “อนุทิน” เป็นนายกฯ คนที่ 32 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงดึกที่ผ่านมา (29 ส.ค.) หลังนายอนุทิน แถลงจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจที่พรรคภูมิใจไทย ร่วมกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายศักดิ์ดา วิเชียรศรี สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ ในเวลาต่อมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานพรรคกล้าธรรม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค และนายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคฯ ได้เดินทางมาพูดคุยเรื่องการร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย พร้อมสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกฯ และล่าสุดในวันนี้ (30 ส.ค.) เวลา 16.00 น. พรรคกล้าธรรม ได้ออกแถลงการณ์โดยมีมติเอกฉันท์ สนับสนุนนายอนุทิน […]

จับแล้ว “ป๋านวย” เจ้าของบ่อนพนันดอนเมือง

กทม. 30 ส.ค.-ไม่รอด “ป๋านวย” เจ้าของบ่อนพนันดอนเมือง ผู้ต้องหา 8 หมายจับ ถูกตำรวจสืบสวนนครบาลบุกจับกุม นายอำนวย หรือ “ป๋านวย” อายุ 69 ปี ผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับการลักลอบเปิดสถานที่มั่วสุมเล่นการพนัน ถูกตำรวจสืบสวนนครบาล นำหมายศาลฯ ไปติดตามจับกุมตัวได้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวย่านพระราม 4 ก่อนถูกคุมตัวไปขยายผลตรวจค้นบ้านพักหรูกลางทุ่งนา ที่อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่กบดาน แล้วพาตัวกลับมาสอบสวนขยายผลที่ สน.ทุ่งสองห้อง สำหรับนายอำนวย มีหมายจับของศาลแขวงดอนเมือง ในคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การพนัน 6 หมาย หมายจับของศาลอาญา 1 หมาย ในความผิดฐานให้ที่พักพิงบุคคลต่างด้าว จัดให้มีการเล่นการพนันไพ่เสือมังกร และทำกิจกรรมมั่วสุมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ และคดีล่าสุดที่กรมการปกครอง บุกค้นบ่อนพนันย่านสรงประภา คืนวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่วนคดีที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว เป็นคดีเกี่ยวกับการพนัน ศาลฯ พิพากษาแล้ว 9 คดี รวมโทษจำคุก 13 ปี นอกจากนี้ยังมีคดีที่อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์สู้คดี 8 คดี […]