กทม.5 ก.ย.-กทม.พร้อมรับมือสถานการณ์น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุนสูง วางกระสอบทรายกว่า 3แสนใบ บริเวณบ้านเรือนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา 18 ชุมชน 500หลังคาเรือน
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)พร้อมคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจความพร้อมแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาและการรื้อย้ายบ้านชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำบริเวณชุมชนวัดราชผาติการาม และบริเวณท่าเรือเขียวไข่กา เขตดุสิต
นายจักกพันธุ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ ว่า กทม.มีความพร้อมในการรับมือสถานการณ์น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุนสูง และน้ำฝน ที่คาดว่าจะมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านบริเวณภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้มีฝนตกหนักมีปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านกรุงเทพฯมากขึ้นตั้งแต่เดือนนี้ จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม โดย กทม.มีการสร้างแนวคันกั้นน้ำถาวรป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ มีความยาว 77 กิโลเมตร จากทั้งหมด 86 กิโลเมตร ซึ่งยังเป็นพื้นที่ฟันหลอ หรือพื้นที่ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำอีก 9 กิโลเมตร แบ่งเป็น 5 กิโลเมตรเป็นพื้นที่ของเอกชนและอีก4กิโลเมตร คือบ้านเรือนที่ก่อสร้างรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแนวคันกั้นน้ำถาวรสามารถป้องกันน้ำล้นจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ตั้งแต่ 2 เมตร 80เซนติเมตร ถึง 3 เมตร 50เซนติเมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
สำหรับพื้นที่ฟันหลอ กทม.ได้ดำเนินการวางกระสอบทรายทำแนวคันกั้นน้ำชั่วคราวไว้แล้วกว่า 300,000 ใบตามแหล่งชุมชน และท่าเรือ โดยปัจจุบันมี 18ชุมชน 441ครัวเรือน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ฝั่งพระนคร 15ชุมชน และฝั่งธนบุรีอีก 3ชุมชน ที่อาจได้รับผลกระทบ หากปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาสูงเกิน 2เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ทั้งนี้ กทม.มีการเจรจากับชาวบ้านมาโดยตลอด คาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถรื้อถอนบ้านรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาได้อีก 200 หลังคาเรือน และล่าสุดได้รับรายงานจากกรมชลประทาน มีการระบายน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ที่ กทม.รับมือได้ไม่เกิน 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที .-สำนักข่าวไทย