กรุงเทพฯ 3 ก.ย. – กรมชลประทานเร่งพร่องน้ำในคลองต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รับมือน้ำทะเลหนุน ช่วงวันที่ 4 – 8 กันยายน ขณะที่หลายพื้นที่ในภาคกลาง มีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทานเผย ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ถึง 8 กันยายน จะมีน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับยังมีฝนตกกระจายในพื้นที่ภาคกลาง ทำให้การระบายน้ำออกสู่ทะเลได้ยาก ขณะที่น้ำเหนือจากนครสวรรค์ยังคงไหลมาอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้น 10-15 เซนติเมตร เพื่อเพิ่มศักยภาพการรับน้ำ ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงให้สำนักงานชลประทานที่ 11 เร่งพร่องน้ำออกจากคูคลองต่างๆ ในจังหวัดปทุมธานี โดยเดินเครื่องสูบน้ำ 46 เครื่อง เปิดบานระบายน้ำประตูระบายน้ำ 7 บาน ทางหนึ่งระบายจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ลงแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้ยังผันน้ำไปทางตะวันออก ผ่านแม่น้ำนครนายก แม่น้ำบางปะกง สู่อ่าวไทย ขอให้จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาตั้งแต่นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด บ้านเรือนริมแม่น้ำให้เก็บของขึ้นที่สูง
ขณะที่ระดับน้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดอ่างทอง ทรงตัวอยู่ที่ 7.13 เมตร แต่ยังสูงกว่าระดับเตือนภัยที่ 6.93 เมตร อยู่ 20 ซม. และล้นตลิ่งเข้าท่วมอำเภอเมือง ป่าโมก และวิเศษชัยชาญ ปภ.จังหวัดอ่างทอง เตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำ ที่อาจเพิ่มสูงขึ้นอีก 10-20 ซม.ในช่วง 4-8 กันยายน
ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ส่งผลให้น้ำในคลองเริงราง ที่เชื่อมต่อกับคลองชัยนาท-ป่าสัก เพิ่มระดับขึ้นต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะที่อำเภอบ้านหมอ บางจุดระดับน้ำท่วมขังสูงกว่า 70 เซนติเมตร เทศบาลตำบลท่าลาน และกรมชลประทาน นำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพื่อเร่งสูบน้ำผลักดันน้ำกลับเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก
เช่นเดียวกับที่จังหวัดชัยภูมิ ยังคงมีฝนตกสะสม ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาภูแลนคา ไหลมาตามลำห้วยลำปะทาวและเข้าท่วมตัวเมือง ทั้งยังมีน้ำล้นจากฝายห้วยยาง เข้าท่วมเทศบาลเมืองชัยภูมิ ประชาชนต้องขนของหนีน้ำอลหม่านทั้งคืน ขณะที่เขื่อนลำปะทาวล่าง ได้เร่งระบาย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก ซึ่งอาจทะลักเข้าท่วมตัวเมืองชัยภูมิได้. -สำนักข่าวไทย