รองโฆษก ตร.แจงสืบเมืองนครสวรรค์จับ3พม่าถูกตามกฏหมายหลบหนีเข้าเมือง

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.- รองโฆษก ตร.แจงตำรวจสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ จับกุม 3พม่าหลบหนีเข้าเมือง นั้นถูกต้องตามกฏหมายและไม่ได้เลือกปฏิบัติตามที่ถูกร้องเรียน


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยกรณี หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้นำเสนอข่าว เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ในคอลัมน์เลขที่ 1   วิภาวดีฯ โดยลงข้อความ “เดือดร้อนจับต่างด้าว”  ระบุว่า มีเรื่องร้องเรียนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ในเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ กรณีเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2560 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไม่ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนที่จะจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาแก่คนต่างด้าว 3 คน ข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเสมือนคนต่างด้าวไม่ใช่คน ดันทุรังแจ้งข้อกล่าวหา เลือกปฏิบัติ หรือทำเป็นเชือดไก่ให้ลิงดูนั้น

ซึ่งจากการตรวจสอบกับ พ.ต.อ.ฐานุพงศ์  แสงชื่น ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522  เมื่อพบคนต่างด้าวจึงได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางแต่ปรากฏว่ามีคนต่างด้าว 3 คน ไม่มีหนังสือเดินทางแสดง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนเห็นว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า จึงจับกุมตามอำนาจหน้าที่ ส่วนความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต” เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ปฏิบัติตาม พระราชกำหนดการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ซึ่งบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2560 ซึ่งภายหลังมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 33/2560 เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 เรื่อง มาตรการชั่วคราวเพื่อแก้ไขข้อขัดข้องในการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว ข้อ 1 ว่าด้วยความผิดฐาน “คนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน” ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 นั้น ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในฐานความผิดดังกล่าวแล้ว  สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติพม่า 3 คน มีความผิดฐาน “คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตทำงาน ทำงานแตกต่างจากนายจ้างตามที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตทำงาน” ดังนั้นการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้จับกุมได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง