กทม.2 ก.ย.-มีคำชี้แจงจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีพรุ่งนี้ข้อหาที่จะเอาผิดทายาทเครื่องดื่มชูกำลังจะหมดอายุความอีก 1 ข้อหา ด้านพี่ชายดาบตำรวจผู้ตาย ก็เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้องชาย
พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวกรณีวันพรุ่งนี้( 3 ก.ย.) คดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ที่ขับรถชนดาบตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิต เมื่อปี 2555 จะหมดอายุความลงอีก 1 ข้อหา คือ ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรและไม่แจ้งเหตุแก่เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ เนื่องจากข้อหานี้มีอายุความ 5 ปี ทำให้นายวรยุทธ จะมีข้อหาเหลืออยู่เพียงข้อหาเดียว คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีอายุความถึง 15 ปี โดยชี้แจงว่า คดีนี้ตำรวจดำเนินการติดตามตัวทุกช่องทาง ซึ่งทางตำรวจกองการต่างประเทศ หรือตำรวจสากลไทย ได้ออกหมายจับแดง ไปยัง 190 ประเทศ ให้มีการติดตามตัวนายวรยุทธ ประเทศใดพบเบาะแสจะแจ้งมา แต่ขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดตอบกลับมา อาจเพราะแต่ละประเทศมีหลายคดีที่ต้องดำเนินการ
สำหรับข้อหาขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายฯ ซึ่งจะหมดอายุความวันพรุ่งนี้(3 ก.ย.)นั้น ยังมีข้อหาหนักที่ยังเหลืออยู่คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเหลืออายุความอีก 10 ปี ที่มีการพูดลักษณะว่า เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำ หากมีเบาะแสให้แจ้งมาไม่ใช่กล่าวหาลอยๆ นอกจากนี้ตามที่สำนักข่าวเอพี มีการอ้างอิงแหล่งข่าวพบเห็นนายวิทยา พักอยู่ในโรงแรมที่ประเทศไต้หวัน ช่วงเดือนพฤษภาคม ก่อนเดินทางออกนอกประเทศไปนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแจ้งมา หากทางเอพีมีข้อมูลก็ให้แจ้งกับตำรวจได้ พร้อมย้ำตำรวจก็อยากได้ตัวกลับมาดำเนินคดี
ด้านนายพรอนันต์ กลั่นประเสริฐ พี่ชายดาบตำรวจที่เสียชีวิต กล่าวว่า ทราบข่าวว่าพรุ่งนี้(3 ก.ย.) ข้อหาชนแล้วหนีจะหมดอายุความ เสียใจที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่เร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี แต่โดยส่วนตัวแล้วจะไปเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการนั้นไม่สามารถทำได้เนื่องจากไม่รู้ระเบียบและขั้นตอนทางกฎหมาย จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับน้องชายที่เสียชีวิตไป 5 ปีแล้ว แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า และไม่สามารถเอาผิดผู้ก่อเหตุได้.-สำนักข่าวไทย