ชุมพร 2 ก.ย.-คนต่างถิ่นขับรถกระบะ ใช้ GPS นำทาง หลงเข้าถนนลูกรังในหมู่บ้าน เจอทางตัดรถไฟ ล้อหลังรถเกิดติดรางรถไฟ โดนขบวนม้าเหล็กที่วิ่งมาพอดี พุ่งชนลากไปไกล 200 เมตร โชคดีคนขับรถกระบะกระโดดหนีทัน รอดตายหวุดหวิด
วันนี้(2 ก.ย.)ร.ต.อ.สายัญตร์ ตุบระวัต รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ปะทิว จ.ชุมพร รับแจ้งเกิดเหตุรถไฟชนกับรถยนต์ที่บริเวณทางตัดรถไฟ บ้านหนองจรเข้ หมู่ 10 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ภัยปะทิว ที่เกิดเหตุเป็นถนนลูกรังตัดข้ามรางรถไฟในหมู่บ้านหนองจรเข้-บ้านคลองวังช้าง ห่างจากสนามบินชุมพร ประมาณ 6 กิโลเมตร
พบรถกระบะ โตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บล-4662 ร้อยเอ็ด สภาพพังยับเยิน ติดคาอยู่กับหน้าหัวจักรรถไฟขบวนที่ 41 กรุงเทพ-ยะลา มีร่องรอยถูกลากไถลมาไกลจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 200 เมตร โบกี้รถไฟมีผู้โดยสารอยู่จำนวนมาก แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ที่เกิดเหตุมีต้นคริสตินาหล่นอยู่จำนวนหลายต้น ส่วนคนขับรถกระบะปลอดภัย ทราบชื่อคือ นายวิญญู นามประภา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 5 ต.เหล่าน้อย อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
สอบสวนนายวิญญู คนขับรถกระบะ ให้การว่า ขับรถกระบะบรรทุกต้นคริสตินามาเต็มคันจาก จ.นครนายก เพื่อจะนำไปส่งที่สนามบินชุมพร โดยใช้ GPS นำทางขับมาตามถนนเพชรเกษม เมื่อถึงทางแยกจากอำเภอท่าแซะเข้าไปในเขตตัวอำเภอปะทิว เพื่อจะไปสนามบินชุมพร แต่ GPS ได้นำทางหลงเข้ามาตามถนนในหมู่บ้าน ซึ่งไม่ใช่ถนนเส้นทางสายหลัก
จนมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางตัดข้ามรางรถไฟ ไม่มีเครื่องปิดกั้น ปรากฏว่าล้อหลังด้านซ้ายของรถกระบะเกิดตกขอบถนน ทำให้รถติดอยู่บนทางรถไฟ ตนจึงลงจากรถนำแม่แรงไปดันยกล้อขึ้นระหว่างนั้นมีขบวนรถไฟวิ่งมาพอดี ตนจึงรีบกระโดดหนีออกมาได้ทัน ก่อนที่ขบวนรถจะพุ่งชนรถกระบะอย่างจัง และลากรถกระบะไถลไปกับรางรถไฟไปไกล 200 เมตร จนรถยนต์เสียหายทั้งคัน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนปากคำพนักงานขับรถไฟและตรวจสอบพยานหลักฐานอื่นๆ ประกอบ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ส่วนหัวจักรรถไฟไม่ได้รับความเสียหายมากนัก สามารถเดินทางต่อไปได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย