นายกฯ เสียใจ “ยิ่งลักษณ์” หนี ฝ่ายความมั่นคงเป็นจำเลยสังคม

ทำเนียบฯ 29 ส.ค.-  นายกฯ เสียใจ ฝ่ายความมั่นคงเป็นจำเลยของสังคม กรณี “ยิ่งลักษณ์” หลบหนี  สั่งเร่งติดตามเส้นทาง ทั้งในประเทศและนอกประเทศ รอคำตอบอย่างเป็นทางการจากต่างประเทศ หลังสอบถามไป เชื่อ จะติดตามตัวกลับมาได้ ยอมรับ กังวลจะซ้ำรอย “ทักษิณ”


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ยอมรับ รู้สึกเสียใจ ที่ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงกลายเป็นจำเลยของสังคม กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ไม่เดินทางมารับฟังคำพิพากษาในคดีโครงการรับจำนำข้าว ทั้งๆ รัฐบาลนี้นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และมุ่งหวังให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามกระบวนการ  

“ประเด็นแรก ถ้าทุกคนย้อนกลับไปดู สมัยก่อนใครจะไปไหนก็ตาม ก็ออกคำสั่ง มาตรา 44 ใช่หรือไม่ ว่าจะต้องขออนนุญาต คสช. และที่ผ่านมาสื่อฯ นักสิทธิมนุษยชน ฝ่ายการเมือง ก็บอกว่าเป็นการละเมิด ผมก็ยกเลิกคำสั่งนั้นไปแล้ว  ฉะนั้นเขาไม่ต้องมาขอผม เข้าใจตรงนี้ด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเด็นที่ 2 ในระหว่างนี้ ที่การตัดสินยังไม่เกิดขึ้น ศาลก็มีข้อตกลงกับผู้ถูกกล่าวหาว่า ให้มีเงินประกันตัว 30 ล้านบาท ว่าจะไม่หนีออกนอกประเทศ ซึ่งตอนนี้ก็ถูกยึดเงินประกันไปแล้ว นี่คืออีกขั้นตอน เป็นเรื่องของศาล และประเด็นที่ 3  เส้นทางการหายตัว  ได้สั่งการไปหลายวันแล้ว การดำเนินการต้องเช็คหลายทาง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้ประสานผ่านทางการทูต ทั้งประเทศในกลุ่ม CLMV  สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึง รอการตรวจสอบจากทุหน่วยงาน

“ผมก็ให้สอบถามไป และรอคำตอบอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ผมก็ไม่ทราบว่าจะตอบมาว่าอย่างไร การเข้าการออก ไปตรงไหน ไปขึ้นเครื่องบินจากตรงไหน ไปยังไง ตอนนี้กำลังดำเนินการทั้งหมด ขึ้นอยู่กับต่างประเทศทั้งต้นทาง ปลายทาง ว่าจะตอบอย่างไร กระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานอยู่ ” นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่า ขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังอยู่ในประเทศ หรือหลบหนีไปในเส้นทางใด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมามีความวุ่นวายสับสนพอสมควร  ในการไปติดตามอดีตนายกรัฐมนตรีทุกแห่ง เพราะจะถูกมองว่าเป็นการไปรังแกอดีตนายกรัฐมนตรี  จึงได้สั่งให้ฝ่ายความมั่นคงผ่อนปรนการติดตามออกมาเล็กน้อย มีจุดเฝ้าตรวจอยู่หน้าบ้าน ก่อนและหลังออกจากบ้าน  ซึ่งเมื่ออดีตนายกรัฐมนตรียังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มาก 


“อยากให้ทุกคนเข้าใจเหตุผล และการชี้แจงนี้ ไม่ได้เป็นคำแก้ตัว  อยากให้ทุกคนมีหลักคิดให้ถูกต้อง และยืนยันว่า  คสช.และฝ่ายความมั่นคง ไม่ได้ให้การช่วยเหลือในการหลบหนี เว้นแต่มีคนชั่วบางคนปล่อยปละละเลย และถ้าพบมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ หรือรับผลประโยชน์ ก็จะต้องหาจนเจอและถูกลงโทษ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกินความสามารถ แต่ต้องขอเวลาระยะหนึ่ง เพราะเกี่ยวพันกับต่างประเทศ ไม่ต้องการให้วิพากษ์วิจารณ์ไปก่อน เกรงจะเป็นปัญหา  อย่าเอาเรื่องทุกเรื่องมาปนกัน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะเสียหาย  

“ถ้าไปต่างประเทศ ก็ต้องมีการขอความร่วมมือ  ขอส่งตัว อะไรต่างๆ ท่านแรกยังกลับไม่ได้เลย เพราะว่าท่านก็เคลื่อนไหวของท่านไปเรื่อย  เพราะฉะนั้นก็เป็นเคสเดียวกับทายาทกระทิงแดง นั่นขอตำรวจสากลไป 170 ประเทศ ยังกลับมาไม่ได้เลย แต่ผมยืนยันว่า ต้องลงโทษให้ได้  ต้องหาวิธีการทางกฎหมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เป็นการไม่สมควร หากหลังจากนี้อดีตนายกรัฐมนตรีจะมีความเคลื่อนไหว เพราะเป็นผู้กระทำผิด ซึ่งขณะนี้มีความผิดเพียงเรื่องเดียว คือ การหลีกเหลี่ยงการไปศาล และถูกยึดเงินประกัน  ส่วนเรื่องคดียังไม่ถูกตัดสิน ต้องรอฟังผลเดือนกันยายน ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร 

นายกรัฐมนตรี ยังยอมรับว่า มีความกังวลว่า กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะซ้ำรอยกับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร และว่า  ถ้าหลบหนี ก็จะเป็นผู้ร้ายหนีคดี ก็ต้องลดการให้เกียรติ  ที่ผ่านมาให้เกียรติมาตลอด  

 “วันนี้ อย่ายกความรับผิดชอบทั้งหมดให้ผม และไม่อยากให้คิดว่า ฝ่ายความมั่นคงล้มเหลว  เพราะได้ทำเรื่องดีให้เกิดผลสัมฤทธิ์หลายเรื่อง ผมหนักอกนะ ถ้าเป็นผม ท่านจะรู้ว่า ท่านทำไม่ได้หรอก จะช่วยใคร ผมช่วยไม่ได้ อย่าเอาเรื่องนี้ไปพันเรื่องโน้น คลิปออกมาเต็มไปหมด มันคนละเวลา มันคนละเรื่อง  มันปิดไม่มิดหรอก เดี๋ยวหาเจอจนได้ ใจเย็นๆ อย่าให้อย่างอื่นพังไปด้วยเลย ผมขอร้อง อย่าให้สิ่งที่ผมพยายามทำมา 3 ปี มันล้มละลายไปด้วยคนๆเดียว ผมขอแค่นี้ได้หรือไม่ ถ้าท่านเชื่อมั่น ผมจะทำให้” นายกรัฐมนตรี กล่าว “ นายกรัฐมนตรี กล่าว  

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังไม่ขอตอบ กรณีหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะขอลี้ภัย  โดยให้เหตุผลว่า  ยังไม่ชัดเจนว่าจะลี้ภัยเพราะเหตุใด และคาดว่าไม่น่าจะขอลี้ภัยได้        .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลไม่ให้ประกันผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม ส่งคุมขังเรือนจำ

16 พ.ค.- ศาลไม่ให้ประกัน “เปรมชัย” และผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม คุมตัวทั้งหมดเข้าเรือนจำ ชี้คดีมีความเสียหายใหญ่หลวง น่าสะพรึงกลัว กระทบสังคม ญาติและทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมดได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลได้ไต่สวนพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง และผู้ต้องหา แล้วมีคำสั่งเมื่อเวลา 20.00 น. ว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับคดีนี้จนเกิดความเสียหายใหญ่หลวงน่าสะพรึงกลัว กระทบต่อสังคมอย่างยิ่ง ทั้งพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เกรงจะหลบหนียากแก่การติดตามตัว ทั้งคดีต้องสอบสวนพยานอีก 15 ปาก กรณีมีเหตุผลอันสมควรจะรอผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยพิจารณามีคำสั่งโดยละเอียดรอบคอบต่อไป ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ยกคำร้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป.-สำนักข่าวไทย

จับครบทีม 4 คนร้ายฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ-ฆ่าฝังดิน 1 ศพ

ตรัง 16 พ.ค. – ปิดคดีฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์ม จ.ตรัง ตำรวจจับครบแล้ว 4 คน โดย 2 คนสุดท้ายเพิ่งนำตัวลงมาจากเขา คนร้ายที่ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ทนแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ไม่ไหว ล่าสุดยอมให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เพราะกลัวจะถูกวิสามัญ โดย 2 คนแรกคือ นายศุภกรณ์ หรือ บิน หัวหน้าแก๊ง กับนายจรณชัย หรือ แต้ม ตำรวจควบคุมตัวได้ช่วงเช้ามืดวันนี้ ส่วนอีก 2 คนคือ นายปิยศักดิ์ หรือ แจ็ค และนายรพีพันธ์ หรือ เทือก ตำรวจเข้าควบคุมตัวได้ช่วงเย็นที่ผ่านมา ขณะที่หนีไปกบดานอยู่ในป่าบ้านถ้ำน้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งคือบ้านเกิดของนายแจ็ค […]

เปิดสัมพันธ์ลับ “ทิดแย้ม-สีกา”

16 พ.ค. – เปิดความสัมพันธ์ลับระหว่าง “ทิดแย้ม-สีกา” เริ่มตั้งแต่สีกายังเรียนหนังสือในโรงเรียนวัดไร่ขิง อดีตเจ้าอาวาสให้ความเมตตา จึงเอ่ยปากยืมเงิน 40 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 ความสัมพันธ์ระหว่างนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรืออดีตพระธรรมวชิรานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 หรือ ทิดแย้ม กับสีกา คือ น.ส.อรัญญาวรรณ ซึ่งได้ข้อมูลจากการสอบปากคำทั้ง 2 คน ตลอดคืน รวมถึงหลักฐานสำคัญในโทรศัพม์มือถือของทั้ง 2 คน ทำให้พบว่าความสัมพันธ์นี้ถึงขั้นลึกซึ้ง น.ส.อรัญญาวรรณ รับสารภาพว่ารู้จักกับทิดแย้มมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดไร่ขิง โดยอดีตเจ้าอาวาสขณะนั้นให้ความเมตตา จึงลองเอ่ยปากขอยืมเงิน 40 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 สอดคล้องกับที่ทิดแย้มให้การว่าได้โอนเงินไปให้กับ น.ส.อรัญญาวรรณ เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ช่วงปี 2564 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานสำคัญคือ คลิปการสนทนาระหว่างทิดแย้ม และ น.ส.อรัญญาวรรณ ที่มีการพูดคุยถึงเรื่องการทวงเงินเพราะครบดีล ถึง 4 ครั้ง ครั้งละ 5 […]

เตรียมฝากขัง “อดีตเจ้าคุณแย้ม” พรุ่งนี้ ค้านประกันตัว

นครปฐม 16 พ.ค. – ตำรวจเตรียมคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ขออำนาจศาลฝากขัง พรุ่งนี้ (17 พ.ค.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังถูกกล่าวหายักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์ ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 06.30 น. นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด ประกอบด้วย ในวัดไร่ขิง 3 จุด และนอกวัดไร่ขิง 1 จุด เพื่อขยายผลค้นหาพยานหลักฐานในคดีที่พระธรรมวชิรานุวัตร หรืออดีตเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 ถูกกล่าวหาว่าทุจริตยักยอกเงินวัดไร่ขิง กว่า 300 ล้านบาท ไปเล่นการพนันออนไลน์ พื้นที่เป้าหมายสำคัญจุดแรกคือ กุฏิของอดีตเจ้าคุณแย้ม โดยเจ้าหน้าที่ได้อ่านหมายค้น มีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นผู้รับหมายและนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เบื้องต้นมีการยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ รวมถึงเอกสารรายรับ-รายจ่าย 10 ลัง เกือบ […]