แจ้งวัฒนะ 29 ส.ค.-ภรรยาและลูกชาย เข้าเยี่ยมนายบุญทรงเป็นครั้งแรก ด้านทนายความ เผยเตรียมถอนฟ้องกรมบังคับคดี กรณีอายัดทรัพย์ภรรยาวันพรุ่งนี้ และภายในสัปดาห์นี้จะยื่นประกันตัวรอบ2
บรรยากาศที่เรือนจำกลางคลองเปรม นางปอยใจระพี เตริยาภิรมย์ ลูกชาย และญาติ พร้อมนายนรินทร์ สมนึก ทนายความ รวม 5 คน เดินทางมาเข้าเยี่ยมนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ต้องขังในคดีทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ครอบครัวมีโอกาสได้พบหน้านายบุญทรง หลังถูกคุมขัง ตั้งแต่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 42 ปี เมื่อวันที่ 25ส.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาเข้าเยี่ยมประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งครอบครัวไม่สะดวกให้สัมภาษณ์
นายนรินทร์ ทนายความของนายบุญทรง กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยม ว่า สุขภาพของนายบุญทรง ตอนนี้ดีขึ้น แต่ยังคงมีความเครียดอยู่บ้าง ซึ่งวันนี้ทางครอบครัวก็เดินทางมาให้กำลังใจ เพราะเป็นห่วงสุขภาพ ซึ่งกำลังจะเข้าตรวจที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์อีกครั้ง และครอบครัวร้องขอความเป็นส่วนตัว ไม่อยากให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ
ส่วนการยื่นประกันตัวรอบ 2 อยู่ในขั้นตอนเขียนคำร้อง ประกอบเหตุผลต่างๆ หลายประเด็น เพื่อให้ศาลฎีกาฯ พิจารณา ยืนยันไม่มีปัญหาหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัว ซึ่งไม่ขอเปิดเผยจำนวนเงินว่าจะมากกว่า 30 ล้านบาท ที่ยื่นประกันตัวครั้งแรกหรือไม่ คาดจะยื่นภายในสัปดาห์นี้
สำหรับวันนี้ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เลื่อนนัดฟังคำไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ในคดีที่นางปอยใจระพี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
กรมบังคับคดี กรมการค้าต่างประเทศและเจ้าหน้าที่รวม 3 ราย ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังกรมบังคับคดีใช้มาตรการทางปกครองอายัดทรัพย์นายบุญทรง ซึ่งบางส่วนเป็นทรัพย์สินของนางปอยใจระพี คือบัญชีเงินฝาก 2 บัญชี ทำให้เกิดความเสียหายนั้น ทนายความ กล่าวว่า นายบุญทรงขอให้ภรรยาถอนฟ้อง เพราะไม่ต้องการให้ครอบครัวมาเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว ไม่อยากให้ตกเป็นเป้าทางการเมือง ซึ่งภรรยาไม่ติดขัดใดๆ โดยเตรียมทีมทนายเดินทางไปถอนฟ้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตในวันพรุ่งนี้
ส่วนกรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมชี้มูลความผิดกรณีการระบายข้าวและมันสำปะหลัง แบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ล็อตที่ 2 ทางทีมทนาย ยืนยันจะต่อสู้คดีให้ลูกความแน่นอน ขณะนี้ขอดำเนินการขอยื่นประกันตัวนายบุญทรงให้เสร็จเรียบร้อย โดยวันนี้ยังไม่ได้คุยกับนายบุญทรงเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด .-สำนักข่าวไทย