ก.ท่องเที่ยว เดินหน้าคลัสเตอร์อารยธรรมอีสานใต้

ก.ท่องเที่ยว 23 ส.ค.-รมว.ท่องเที่ยวฯ ร่วม ครม.สัญจร จ.นครราชสีมา เล็งแผนพัฒนาการท่องเที่ยว ฟื้นวิถีชุมชน ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างความเข้มแข็งให้ท้องถิ่น สร้างรายได้ด้วยการท่องเที่ยว ส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม 


นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ มองเห็นโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของโคราชหลายจุด โดยภาพรวมแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดมีจุดเด่นด้านเชิงนิเวศและโบราณสถาน ซึ่งทางจังหวัดได้มีการเสนอยุทธศาสตร์การดำเนินแผนงานและนำลงพื้นที่ดูงาน 2 เส้นทาง คือ 1.การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เชื่อมโยงเส้นทางผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น ระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับผืนป่าวังน้ำเขียว มีความหลากหลายทางพืชพันธุ์ รวมถึงสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินบ้านโกรกเดือนห้า หรือจีโอพาร์ค โคราช แหล่งรวบรวมซากดึกดำบรรพ์ และ 2.การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม แหล่งโบราณสถาน วัฒนธรรมประเพณีที่เป็นจุดเด่นในแต่ละพื้นที่ ซึ่งล้วนมีความน่าสนใจ อาทิ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย มีการร่วมหารือกันว่าทำอย่างไรที่จะทำให้การท่องเที่ยวคลัสเตอร์อารยธรรมอีสานใต้และวิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขงสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี 

นางกอบกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่อีสานใต้ของไทยมีจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวเชื่อมโยงทุกมิติ (ASEAN Connect) เพราะมีความพร้อมทุกด้านอาทิ สนามบินนานาชาติ ซึ่งมีเที่ยวบินที่เชื่อมโยงในทุกภูมิภาค เส้นทางรถยนต์เชื่อมต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว และกัมพูชา รวมถึงเพื่อนบ้านในเขตลุ่มแม่น้ำโขง และเส้นทางใหม่ที่กำลังเร่งดำเนินการ คือ เส้นทางมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช การท่องเที่ยวทางรางด้วย “รถไฟไทยขบวนใหม่ กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี” เพื่ออำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวข้ามภาค


นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือร่วมกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ถึงการพัฒนาที่จะสอดคล้องกับ “แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12” เพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกันอย่างเป็นระบบ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่เปิดโอกาสให้คนสูงวัยและคนทุพพลภาพ กว่า 10.7 ล้านคนทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ทันสมัย เป็นธรรม เหมือนบุคคลทั่วไป เพื่อผลักดันให้การท่องเที่ยวเป็นการท่องเที่ยวที่สร้างประโยชน์สุขให้แก่คนทุกวัย โดยในปัจจุบันได้มีสถานที่นำร่องคือสวนนงนุช และในอนาคตจะมีการเปิดให้คนแก่และคนทุพพลภาพเข้าชมพิพิธภัณฑ์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย 


“สิ่งสำคัญคือการเป็นเจ้าบ้านที่ดีและการปรับสภาพภูมิทัศน์ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสะอาด  รวมถึงการให้บริการที่ดี จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง ทั้งยังอยากเชิญชวนให้คนไทยหันมาเที่ยวเชิงวิถีชีวิตและชุมชนเพื่อเป็นการท่องเที่ยวชุมชนกระจายรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจทางตรงลงสู่พื้นที่ได้อย่างยั่งยืน โดยช่วงปลายปีนี้จะมีการจัดงานเทศกาลออกพรรษาในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน และกิจกรรมที่สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ด้วยการจัด MOTO GP ณ จังหวัดบุรีรัมย์” นางกอบกาญจน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง