ทำเนียบรัฐบาล 23 ส.ค. – นายกฯ มอบรางวัล The Pime Minister’s Industry Award 2017 ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญทุกกิจการ สนับสนุนลงทุนต่างประเทศ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลอุตสาหกรรมประจำปี 2560 หรือ The Pime Minister’s Industry Award 2017 กล่าวว่า การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศดำเนินมานานกว่า 30 ปี ซึ่งรัฐบาลนี้ต้องการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ หรือ 5 New S Curve พร้อมพัฒนา 5 S Curve เดิมเป็นแหล่งจ้างงานอยู่แล้ว ทั้งนี้ ต้องการพัฒนาคนไทยให้ทำงานระดับหัวหน้างานมากขึ้น ขณะที่แรงงานภาคอุตสาหกรรมต้องแจ้งความต้องการแรงงานไปยังกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อจะได้ผลิตแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน โดยย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกกิจการ รวมถึงการออกไปลงทุนต่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะต้องสร้างห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้คนไทยได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปีนี้ทิศทางเศรษฐกิจไทยมีอัตราการขยายตัวดีต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 1-2 ดังนั้น จึงคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 3.5-4.0 อย่างไรก็ตาม ด้านการลงทุนยังค่อนข้างช้า ซึ่งรัฐบาลอำนวยความสะดวกนักลงทุนทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงเดินหน้าแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัยเป็นสากลมากขึ้น ด้านการผลิตสินค้ารัฐบาลมุ่งส่งเสริมการผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมากขึ้น และฝากโรงงานขนาดเล็กอุดหนุนใช้เครื่องจักรและเครื่องมือที่ผลิตโดยคนไทยมากขึ้น ด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) จะต้องจัดทำมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) รองรับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็ต้องเร่งดำเนินการลักษณะเดียวกัน เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และรัฐบาลมีนโยบายเพิ่มการค้าประเทศเพื่อนบ้าน CLMV มากขึ้น และการออกไปเจรจาต่างประเทศจะเป็นไปลักษณะไทยบวก CLMV
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและเป็นหนึ่งในฟันเฟืองหลักที่มีบทบาทสำคัญในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาไปสู่ยุค 4.0 เพื่อตอบสนองแนวทางดังกล่าวกระทรวงอุตสาหกรรมจึงสนับสนุนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างมีคุณภาพและมาตรฐานสากล จึงจัดพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมประจำปี 2560 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กระทรวงอุตสาหกรรมจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2536 จนถึงวันนี้นับเป็นปีที่ 25 โดยปีนี้สถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกและได้รับรางวัลมี 28 รายประกอบด้วย รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม 1 รางวัล และรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น แบ่งเป็น 7 ประเภท 27 รางวัล จากผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือก 139 ราย ซึ่งผู้ได้รับรางวัลจะเป็นส่วนหนึ่งช่วยนำพาให้ประเทศไทยก้าวไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อร่วมพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนสืบไป
สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม 1 รางวัล คือ บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) สาขาที่ 2 จังหวัดระยอง ส่วนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 27 รางวัล แยกเป็น 7 ประเภทรางวัล เช่น ประเภทการเพิ่มผลผลิต บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) โรงงานโอเลฟิน จังหวัดระยอง ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด จังหวัดลำปาง ประเภทการบริหารความปลอดภัย บริษัท ไดกิ้น คอมเพรสเซอร์ อินดัสทรีส์ (จำกัด) จังหวัดระยอง เป็นต้น ประเภทการบริหารงานคุณภาพ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกโพลีสไตรีน จังหวัดระยอง ประเภทการจัดการพลังงาน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) โรงงานผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน จังหวัดระยอง ประเภทการบริหารอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม บริษัท มาซูม่า(ประเทศไทย) จำกัด กรุงเทพ และประเภท การจัดการโลจิสติกส์ บริษัท ทีโอที ไกลคอล จำกัด จังหวัดระยอง เป็นต้น.- สำนักข่าวไทย