กรุงเทพฯ 20 ส.ค.-ผู้ค้าน้ำมันเผย
คนไทยใช้น้ำมันเกรดพรีเมียมเพิ่มมากขึ้น แม้ราคาน้ำมันจะสูง แต่เชื่อมั่นประสิทธิภาพ
ส่งผลทุกรายแข่งขันเน้นขยายปั๊มเกรดพรีเมียม
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากฯยังเดินหน้าเพิ่มหัวจ่ายน้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียมในกรุงเทพฯ
ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศให้ครบ 200 สาขาในสิ้นปีนี้
เพื่อผลักดันให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายกว่า4 ล้านลิตรต่อเดือน
จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 100 สาขา มียอดขาย2 ล้านลิตรต่อเดือน เนื่องจากพบว่าหลังเปิดตัวได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค
โดยบริษัทมีกลยุทธ์ส่งเสริมการขายควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้ ปัจจุบัน บางจากมีสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ 1,084
สาขา สิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 1,100 สาขา และมีเป้าหมายเพิ่มเป็น 1,300-1,400
สาขาใน 3-5 ปี
นายสรัญ รังคสิริ
ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด
(มหาชน)กล่าวว่าในเร็วๆนี้ ปตท.จะปรับสูตรน้ำมันใหม่ทุกประเภท
หลังครบวงรอบการใช้น้ำมันสุตรปัจจุบันมานาน 5
ปีแล้ว โดยสูตรน้ำมัน มีทั้งใส่สารเติมแต่ง(additive) ให้ น้ำมันดียิ่งขึ้น ซึ่ง จาก
ปตท.มีหัวจ่ายที่เป็นจำนวนมากในแต่ละปั๊ม ดังนั้น
ส่วนใหญ่จึงมีน้ำมันครบทุกผลิตภัณฑ์ตามที่รัฐกำหนดให้จำหน่าย
และด้วยคุณภาพน้ำมันที่ดี ยอดขายจึงยังเติบโตต่อเนื่อง
“ในส่วนน้ำมันเกรดพรีเมียม
ปตท.ไม่มีแผนที่จะขายในกลุ่มเบนซิน เพราะ ปตท.ขายเบนซิน 95
อยู่แล้วตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือรถเก่าที่เติมแก๊สโซฮอล์ไม่ได้
โดยปตท.จะขายเพียงดีเซลพรีเมียม เพราะถือว่าเป็นทางเลือกแก่ลูกค้า
ซึ่งยอดขายนับว่าดีมาก”นายสรัญกล่าว
นายอัษฎา
หะรินสุต ประธานกรรมการบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า
เชลล์มีแผนจะขยายปั๊มน้ำมันที่ขายเฉพาะเกรดพรีเมี่ยมจากปัจจุบันมี 2
แห่งง ย่านอโศก และพระราม9 โดยดูทำเลที่เหมาะสมทั้งใน
กทม.และหัวเมืองในต่างจังหวัด เพราะผลตอบรับที่ดี แม้ราคาน้ำมันจะแพงกว่าเกรดปกติ 3
บาท แต่ลูกค้าที่ใช้ต่างระบุถึงประสิทธิภาพและเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายรายเดือนแล้วต่ำกว่าการใช้น้ำมันเกรดปกติ
ยิ่งการเปิดตัวเทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” นำมาผสมในน้ำมันทุกประเภทยิ่งคาดว่ายอดขายจะดีขึ้น
ซี่งเป็นนวัตกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุดที่นักวิทยาศาสตร์เชลล์
ทำวิจัยร่วมกับเฟอร์รารี่เป็นเวลานานกว่า 5 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเชลล์ที่ใช้งบประมาณกว่า
30,000
ล้านบาทต่อปีเพื่อคิดค้นสูตรน้ำมันสำหรับเครื่องยนต์ประเภทต่างๆ
“การแข่งขันยอดขายน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมแม้จะรุนแรงขึ้น
แต่ เชลล์ก็เชื่อว่าจะแข่งขันได้เพราะเราเป็นผู้นำน้ำมันด้านนี้
และการตอบรับของลูกค้าก็ดีแม้ราคาน้ำมันขณะนี้จะสูงขึ้นบ้างก็ตาม
และในส่วนของเชลล์คงไม่ขายเบนซิน 95
และหวังว่ารัฐบาลจะเร่งประกาศลดชนิดของกลุ่มเบนซิน จากปัจจุบันมี 5
เกรด เพื่อให้แต่ละปั๊มมีหัวจ่ายที่มากพอจะขายทุกประเภท”นายอัษฎา กล่าว
นางสาวอรอุทัย ณ เชียงใหม่ กรรมการบริหาร
ธุรกิจการตลาดค้าปลีก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า
นอกจากเชลล์จะเน้นน้ำมันพรีเมี่ยมแล้วเชลล์ยังขยายการจำหน่ายสินค้าในส่วนของnon-oil
ทั้งร้านกาแฟและร้านสะดวกซื้อ ตั้งเป้าในปี ค.ศ.2025 ยอดขายจะมีสัดส่วนจาก
non-0il ถึงร้อยละ 50 จากปัจจุบันยังไม่สูงมากนัก
ส่วนปั๊มน้ำมันเชลล์ขณะนี้มี 517 แห่งปีนี้ขยายเพิ่ม 41 แห่งและจะขยายอีก
30แห่ง/ปี ในช่วง 3-4 ปีนี้
โดยแม้ปีนี้ไทยจะประสบปัญหาน้ำท่วมในต่างจังหวัดหลายระลอกแต่ยอดขายน้ำมันในช่วง5
เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค60) ยอดขายน้ำมันในไทยยังโตร้อยละ
1.3 แต่ยอดขายของเชลล์โตกว่าตลาดโดยโตถึงร้อยละ 1.7
ซึ่งคาดว่านอกจากคุณภาพน้ำมันแล้ว
ยังเกิดจากการปรับปรุงปั๊มใหม่ ห้องน้ำ
และธุรกิจnon-0il ทำให้ยอดขายโตขึ้น –สำนักข่าวไทย