ตรวจรถหรูรอบ3 รวมมูลค่าภาษีอากรขาดกว่า 2,000 ล้านบาท

ดีเอสไอ 18 ส.ค.-ดีเอสไอ เผยกรมศุลกากร แจงภาษีรถหรู รอบ 3 พบรถสำแดงราคาเท็จอีก 136 คัน ภาษีหาย รวม 2,473 ล้านบาท


พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้าดำเนินคดี กรณีลักลอบนำเข้ารถหรูและหลีกเลี่ยงการชำระภาษีศุลกากร ด้วยการสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ว่า ล่าสุดกรมศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดส่งข้อมูลบัญชีรายละเอียดภาษีอากรขาดที่ดีเอสไอได้ส่งข้อมูลราคาที่แท้จริงไปให้ ส่งกลับมาให้ดีเอสไอ เพิ่มเติมอีกจำนวน 136 คัน ทั้งหมดเป็นรถยี่ห้อ ลัมโบร์กินี พบว่าคันที่หลบเลี่ยงภาษีสูงสุดอยู่ 33 ล้านบาทต่อคัน รองลงมาคือ 32 ล้านบาท และ 29 ล้านบาทต่อคัน  รวมมีมูลค่าภาษีอากรขาด  ในรอบที่ 3 นี้รวม 2,473 ล้านบาท 


รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อไปว่า รวมกับอีก 2 ครั้งที่ผ่านมาที่กรมศุลกากรประเมินภาษีให้ดีเอสไป ครั้งแรก รวม 32 คัน มูลค่าภาษีที่ขาดไปประมาณ 673 ล้านบาท และครั้งที่ 2 รวม 91 คัน มูลค่าภาษีที่ขาดไปรวม ประมาณ 1,165 ล้านบาท  รวมจำนวนรถยนต์ที่กรมศุลกากรได้จัดส่งข้อมูลบัญชีรายละเอียดภาษีอากรขาดกลับมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษทั้งสิ้น 259 คัน คิดเป็นมูลค่าภาษีอากรขาดทั้งสิ้น 4,313 ล้านบาท


ส่วนการดำเนินคดีในรอบที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้เรียกกลุ่มผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วจำนวน 3 กลุ่มบริษัท ผู้ต้องหารวมจำนวน 16 คน ล่าสุดในรอบนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างดำเนินการเรียกกลุ่มผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มอีก2 กลุ่มบริษัท รวมผู้ต้องหาในครั้งล่าสุดอีก 16 คน โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดส่งต่อไห้อัยการทำหนังสือออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป  ยืนยันดีเอสไอจะดำเนินการตามกฎหมายเอาผิดกับผู้กระทำผิดทุกกลุ่มไม่มีข้อยกเว้น

นอกจากนี้ได้ประสานไปยังประเทศอิตาลีและอังกฤษ  เพื่อขอข้อมูลราคาขายรถหรูที่แท้จริงเพิ่มเติมอีกหลายยี่ห้อ หลังจากก่อนหน้านี้ทางการอิตาลีได้แจ้งราคารถหรูยี่ห้อลัมโบร์กินีกลับมาให้ดีเอสไอแล้ว  รวมทั้งไนช่วงที่ผ่านมามีผู้ประกอบการนำเข้ารถหรูหลายรายทำหนังสือส่งมายังดีเอสไอ เพื่อสอบถามเรื่องการชำระภาษีในส่วนที่ขาด เนื่องจากเกิดความกังวลว่าจะมีความผิดตามมา ซึ่งตนได้ชี้แจงว่าดีเอสไอมีหน้าที่แค่ในการดำเนินคดีทางอาญา ไม่มีหน้าที่เรื่องนี้ แต่จะรับเรื่องและประสานไปยังกรมศุลกากรว่าขั้นตอนจากนี้ผู้ประกอบการจะต้องทำอย่างไรต่อไป .-สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง