fbpx

เฝ้าระวังเต็นท์รถชายแดนใต้

ปัตตานี 17 ส.ค.-หลังเกิดเหตุปล้นรถจากเต็นท์รถมือสองเพื่อนำไปใช้คาร์บอมบ์ในพื้นที่ปัตตานี ทำให้ผู้ประกอบการเต็นท์รถต่างตื่นตัวเฝ้าระวังเหตุ เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย ส่วนข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้พบว่า ตลอด 9 ปีที่ผ่านมามีรถยนต์ถูกโจรกรรมไปใช้ก่อเหตุคาร์บอมบ์แล้ว 20 คัน



เต็นท์รถมือสองในพื้นที่เมืองปัตตานีจำนวนหลายแห่งได้หยุดให้บริการในวันนี้ หลังเกิดเหตุคนร้ายปล้นรถยนต์จากเต็นท์รถมือสองใน อ.นาทวี จ.สงขลา จำนวน 6 คัน เมื่อวานนี้ ซึ่งในจำนวนนี้ 2 คัน ถูกนำไปใช้ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ ทำให้ผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองในพื้นที่ไม่มีความมั่นใจในความปลอดภัย ทีมข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยและสอบถามผู้ประกอบการหลายราย ส่วนใหญ่ไม่ค่อยกล้าแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหวาดหวั่นอาจจะส่งผลกระทบต่อตัวเองได้ แต่ยอมรับว่ารู้สึกหวาดกลัวและหวาดระแวงในการทำธุรกิจค้ารถ ซึ่งหลังจากนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น


ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีให้นายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ ตรวจสอบจำนวนเต็นท์รถมือสอง พร้อมกำชับให้ผู้ประกอบการเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น และให้ประสานเจ้าหน้าที่โดยด่วนหากพบสิ่งผิดปกติ

หลังคนร้ายก่อเหตุปล้นรถยนต์จากเต็นท์รถมือสองทั้งหมด 6 คันเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่สามารถติดตามรถยนต์ทั้ง 6 คันได้ทั้งหมดแล้ว และจากการเพิ่มความเข้มงวดตามจุดตรวจสกัด ทำให้สามารถติดตามรถยนต์เป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว


รถยนต์ทุกคันที่ผ่านจุดตรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะถูกกล้องวงจรปิดบันทึกภาพ และบันทึกข้อมูลการสัญจรด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะเชื่อมต่อข้อมูลไปทั่วประเทศ โดยโปรแกรมตัวนี้จะจดจำป้ายทะเบียนรถว่าเดินทางผ่านจุดตรวจไหน เวลาใด และหากรถเป้าหมายสัญจรผ่าน จะส่งสัญญาณเตือนที่จุดตรวจและศูนย์บัญชาการทันที ทำให้สามารถติดตามรถเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว แม้ผู้ก่อเหตุเลี่ยงเส้นทางที่มีจุดตรวจ แต่เจ้าหน้าที่ได้ปูพรมไล่ล่าจนสามารถติดตามรถเป้าหมายที่ถูกปล้นเมื่อวานนี้ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่เกิน 24 ชม.

ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้เปิดเผยข้อมูลรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 2550 พบว่ามีรถยนต์ถูกโจรกรรมจำนวน 69 คัน สืบสวนขยายผลติดตามคืนได้ 45 คัน ถูกนำไปใช้ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์แล้ว 20 คัน บางคันอาจถูกชำแหละชิ้นส่วนไปจำหน่ายโดยไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความมั่นคง ทำให้ปัจจุบันเหลือรถยนต์ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 4 คัน คือ รถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ ทะเบียน บต 3597 ยะลา, รถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา ทะเบียน บร 7934 สงขลา, รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน กพ 6548 สงขลา และรถกระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ สีดำ ทะเบียน ผก 383 สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังรถดังกล่าวเป็นพิเศษ หากผู้พบเห็นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

ยังระดมฉีดน้ำ-โฟม สกัดเพลิงไหม้โกดังสารเคมี

เหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้เพลิงสงบ ขณะที่ล่าสุด จ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว

ร้อนทะลุ 42 องศาฯ จนท.ดับไฟป่า ฮีทสโตรก 3 ราย

อากาศร้อนทะลุ 42 องศาฯ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เข้าดับไฟป่า เกิดฮีทสโตรก หัวใจหยุดเต้น 3 ราย ต้องทำ CPR ก่อนหามลงเขาสูงชันกว่า 4 กม. ขึ้นรถส่งโรงพยาบาล