ลำพูน 17 ส.ค. – ช่วงนี้ลำไยทางภาคเหนือราคายังตกต่ำ ระยะยาวจำเป็นต้องเพิ่มการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า อย่างกลุ่มชาวบ้านริมร่อง จ.ลำพูน รวมกลุ่มแปรรูปลำไยอบแห้งเนื้อสีทองตราสวัสดี ออกขาย และพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เริ่มส่งออกขายในต่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจาก บสย. ช่วยค้ำประกันสินเชื่อ นำเงินมาซื้อลำไยและพัฒนาสินค้าส่งขายได้มากขึ้น
สวนลำไยกว่า 600,000 ไร่ในเชียงใหม่ และลำพูน ช่วงนี้เต็มด้วยลำไยที่ให้ผลผลิตมากมาย สวนทางกลับราคาที่ตกต่ำ เป็นสิ่งที่หลิน หนึ่งในลูกหลานชาวสวนลำไยบ้านริมร่อง ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง ลำพูน เห็นปัญหามาทุกปี จึงร่วมกับคนในครอบครัวและชาวบ้านรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านริมร่อง ทำลำไยอบแห้งเนื้อสีทองมาตั้งแต่ปี 2549
11 ปีผ่านไป กลุ่มชาวบ้านแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ รับซื้อลำไยสดเกรดดีสุดจากสมาชิกชาวสวนในราคาสูงกว่าตลาด นำมาผลิตลำไยเนื้อสีทอง ด้วยความใส่ใจทุกขั้นตอนจนได้รางวัลและมีมาตรฐานการันตีมากมาย โดยล้างลำไย คว้านเมล็ดออก นำเนื้อลำไยเข้าเครื่องอบอินฟราเรด 6 ชั่วโมง จนได้ลำไยสีเหลืองทอง หอมกรุ่น ก่อนจะนำไปอบในโดมแสงอาทิตย์ให้ลำไยแห้งและหอมมากขึ้น ลำไยสด 10 กิโลกรัม จะได้ลำไยเนื้อสีทองเพียง 1 กิโลกรัม บรรจุเป็นผลิตภัณฑ์ออกขายกิโลกรัมละ 650 บาท ภายใต้แบรนด์ “ลำไยสวัสดี” ปีนี้จะรับซื้อลำไยสดจากชาวสวนเพิ่มเป็น 400 ตัน
จากลำไยเนื้อสีทองยังพัฒนาสู่สินค้าอีกมากมายทั้งกาแฟผสมลำไย ลำไยผงพร้อมชง ลำไยเคลือบช็อกโกแลต สำหรับวัยรุ่น มีหน้าร้านในหมู่บ้าน ส่งขายตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในสนามบิน และเริ่มเปิดตลาดในต่างประเทศมาได้ 2 ปี โดยเพิ่มแบรนด์ริมเดอรอง ซึ่งมาจากบ้านริมร่อง แต่ฟังดูแล้วเก๋ไก๋ มีกลิ่นอายสากลมากขึ้น เจาะตลาดจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ทำให้ยอดขายใกล้แตะปีละ 10 ล้านบาทแล้ว
ปีนี้ทางกลุ่มตั้งเป้ารับซื้อลำไยสดจากชาวสวนถึง 400 ตัน เพื่อนำมาแปรรูปเป็นสินค้าขยายตลาดมากขึ้น ซึ่งต้องใช้เงินทุนมากขึ้นจึงขอสินเชื่อแต่หลักทรัพย์ไม่พอ จึงขอรับการสนับสนุนจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ช่วยค้ำประกัน
อนาคตกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านริมร่อง เจ้าของแบรนด์ลำไยจากชาวบ้านอย่างสวัสดีและริมเดอรอง จะเติบโตและแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นส่วนช่วยให้ชาวสวนลำไยในชุมชนอยู่ได้อย่างมีความสุขด้วย. – สำนักข่าวไทย