ภูมิภาค 16 ส.ค. – ยังต้องจับตาสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ เช้านี้ จ.สตูล บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมอีกระลอก ส่วนพื้นที่ จ.พัทลุง น้ำป่าหลากเข้าท่วม กระแสลมแรงพัดต้นไม้ล้มทับเสาไฟฟ้า จนหม้อแปลงระเบิด
ฝนตกหนักและลมกระโชกแรงในพื้นที่ ต.กงหรา อ.กงหรา จ.พัทลุง ทำให้ต้นไม้ล้มทับเสาไฟฟ้า จนหม้อแปลงระเบิด ไฟฟ้าดับทั่วพื้นที่ อ.กงหรา และ อ.ศรีนครินทร์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ เร่งระดมแก้ปัญหาระบบสายไฟใหม่ ขณะที่น้ำป่าจากเทือกเขาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด หลากเข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย น้ำตกหลายแห่ง ทั้งน้ำตกไพรวัลย์ น้ำตกมโนราห์ น้ำตกหนานสูง และน้ำตกปากราง กระแสน้ำเชี่ยวกราก
ส่วนพื้นที่ จ.สตูล มีฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำในลำคลองดูสนหลากเข้าท่วมบ้านเรือน สวนผลไม้ สวนยางพารา ในพื้นที่ ต.ควนโดน และ ต.ย่านซื่อ รวม 7 อำเภอ เกิดน้ำท่วมสูงเป็นระลอกที่ 2 ถนนสายสตูล-ตรัง มีน้ำท่วม สัญจรได้เพียงช่องทางเดียว คือ ฝั่งขาเข้าเขตเทศบาลตำบลฉลุง รถติดขัดยาวเหยียด ส่วนเขตเทศบาลเมืองสตูล ซึ่งอยู่บริเวณที่ลุ่มริมคลองมำบัง มีน้ำหลากเข้าท่วมเช่นกัน
ขณะที่สถานการณ์น้ำใน 6 อำเภอของ จ.ตรัง ตั้งแต่ อ.นาโยง อ.ย่านตาขาว อ.ห้วยยอด อ.กันตัง อ.ปะเหลียน อ.เมือง 19 ตำบล 73 หมู่บ้าน ชาวบ้านกว่า 800 ครัวเรือน เดือดร้อนหนักจากภาวะน้ำท่วม แม้ขณะนี้ระดับน้ำในบางจุดเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่ชุมชน 2 ฝั่งแม่น้ำตรัง หมู่ 2, 3, 4, 5 ต.บางรัก ระดับน้ำยังสูงต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจากหลายอำเภอที่จะไหลลงสู่แม่น้ำตรัง บ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 100 หลัง
กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและผลกระทบใน อ.เสลภูมิ และ อ.ทุ่งเขาหลวง ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรุนแรงที่สุด ขณะที่จุดเสี่ยงบ้านท่าไคร้ อ.เสลภูมิ พบระดับน้ำในแม่น้ำชีเริ่มกัดเซาะ และน้ำเริ่มท่วมขังบ้านเรือน แกนนำชุมชนต้องจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนลำปาว ปล่อยน้ำถึงวันละ 36 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ลงแม่น้ำชี ทำให้บ้านเรือนบริเวณลุ่มน้ำชี จ.ร้อยเอ็ด ทั้ง 8 อำเภอได้รับผลกระทบ แต่เจ้าหน้าที่ยังเร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำอย่างต่อเนื่อง
ด้านการบริหารจัดการน้ำเขื่อนลุ่มเจ้าพระยาของกรมชลประทาน เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เร่งระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำ โดยเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำร้อยละ 83 ของความจุ ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำอยู่ที่ร้อยละ 27 ของความจุ
ขณะที่ บมจ.อสมท ยังเป็นสื่อกลางส่งต่อความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ผ่านบัญชี “อสมท ช่วยผู้ประสบภัย สานใจประชารัฐ” บัญชีหมายเลข 015-0-21738-2 ธ.กรุงไทย สาขาอโศก ยอดเงินบริจาคล่าสุด ณ เวลา 11.00 น. วันนี้ (16 ส.ค.) อยู่ที่ 4,168,501.98 บาท หรือบริจาคผ่านเครือข่ายมือถือ ระบบ AIS กด *239# แล้วโทรออก ระบบ DTAC กด *420*100# แล้วโทรออก ส่วนระบบ TRUEMOVE H เข้าเมนู SMS พิมพ์ 9 แล้วส่งมาที่ 91222 ทุกการบริจาคผ่านเครือข่ายมือถือ 1 ครั้ง เท่ากับ 100 บาท บริจาคได้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้. – สำนักข่าวไทย