บ.ปูซิเมนต์ไทย 26 ต.ค.-ธุรกิจเคมีภัณฑ์ดันผลประกอบการเอสซีจี 9 เดือนแรก 32,000 ล้านบาท พร้อมสนับสนุนบรรจุภัณฑ์อาหาร น้ำดื่มให้กับหน่วยบริการท้องสนามหลวง
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า ผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรกของปี 59 เอสซีจีมีรายได้รวม 323, 829 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศชะลัวตัว รวมทั้งราคาเคมีภัณฑ์ลดลลงตามราคาตลาดโลก จึงมีกำไร 43,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากผลประกอบการไตรมาส 3 มีรายได้จากการขาย 104,957 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5 ปัจจุบันมีทรัพย์สินรวม 528,395 ล้านบาท
เมื่อแยกตามรายกลุ่มธุรกิจ ในด้านซิเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ยอมรับว่า เมื่อความต้องการในประเทศลดลง และยังไม่ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากมีปริมาณฝนในปีนี้มากกว่าปกติเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา การลงทุนภาคเอกชนจึงชะลอตัว อย่างไรก็ตาม เมื่อย่างเข้าไตรมาส 4 ยังมีฝนอยู่บ้าง แต่โครงการลงทุนภาครัฐยังอยู่ระหว่างดำเนินการ และขณะนี้ ประชาชนยังมีอารมณ์เศร้าไม่ต้องการลงทุนหรือบริโภคจึงชะลอตัว คาดว่าตลาดกลุ่มปูนซีเมนต์ในปี 59 ทั้งปี ยังติดลบร้อยละ 2-3 อย่างไรก็ตามความต้องการปูนซีเมนต์ในภูมิภาคอาเซียนมีแนวโน้มฟื้นตัว จากการขยายตัวของอุตสหากรรมก่อสร้าง ขณะที่โรงงานปูนซีเมนต์ในเมียนมา จะเร่ิมผลิตปูนออกสู่ตลาดได้ในไตรมาส 4 ส่วนโรงงานใน สปป.ลาว เร่ิมเดินสายการผลิตได้ในไตรมาส 1 ของปี 60 เวียดนาม การสร้างโรงงานแพ็กเกจจิ้งในเดือนหน้า จึงทำให้ยอดขายรวมน่าจะดีขึ้น
สำหรับธุรกิจเคมิคอลส์ แม้ยอดขายจะลดลงร้อยละ 7 ในไตรสมาส 3 แต่ผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรก มีรายได้ 145,477 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลง แต่ยังมีกำไร 32,122 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 53 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเอสซีจียังเดินหน้าทุ่มงบประมาณด้านวิจัย
และพัฒนากว่า 3,2208 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1 ของยอดขายรวม นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทเอสซีจี ยังมีมติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ใหม่ ครั้งที่ 2/59 จำนวน 25,000 ล้านบาท อายุ 4 ปี เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่กำลังจะครบกำหนด
ขณะที่เอสซีจีพร้อมสนับสนุนด้านกล่องบรรจุอาหารให้กับหน่วยงานบริการอาหาร น้ำดื่ม รวมทั้งช่วยเหลือสร้างห้องน้ำน็อคดาวน์ บริการประชาชน บริเวณท้องสนามหลวง.-สำนักข่าวไทย