เชียงใหม่ 15 ส.ค. – ช่วงนี้อาหารเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง รวมทั้งน้ำผึ้งของไทยที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น วันนี้พาไปดูผู้ผลิตน้ำผึ้งเจ้าเก่าแก่ของไทยที่สืบทอดกิจการมาถึงรุ่นที่ 2 แล้ว ส่งออกไปหลายประเทศมูลค่าปีละ 200-300 ล้านบาท ส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บสย.ช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้ จนสามารถขยายสินค้าสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น
จากผึ้งงานตัวเล็กๆ ที่ช่วยกันหาน้ำหวาน กลายเป็นนำผึ้งที่เต็มไปด้วยคุณค่าธรรมชาติ ซึ่งเริ่มเลี้ยงผึ้งในยุคแรกเพียง 4 ลัง ในสมัยรุ่นพ่อเมื่อเกือบ 40ปีที่แล้ว จนเป็นฟาร์มเลี้ยงผึ้งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย และกลายเป็นบริษัทเชียงใหม่ เฮลตี้ โปรดักส์ จำกัด ในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจำหน่ายน้ำผึ้งและผลิตภัฑณ์จากผึ้งที่ครบวงจรในทุกวันนี้
ยุทธพงษ์ ทายาทรุ่นที่ 2 ซึ่งสืบทอดกิจการจากรุ่นพ่อ เล่าว่า สินค้าหลักคือ น้ำผึ้งบรรจุถังขนาดใหญ่ ที่ส่งให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหารและขนมทั้งในและต่างประเทศ เมื่อฟาร์มผึ้งมีมากขึ้นและน้ำผึ้งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากผึ้งเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เริ่มจากน้ำผึ้งบรรจุขวด ทั้งน้ำผึ้งจากดอกลำไย น้ำผึ้งจากดอกลิ้นจี่ พร้อมกับเครื่องดื่มจากน้ำผึ้งมากมาย ภายใต้แบรนด์ fora bee ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ
เมื่อกระแสรักสุขภาพเพิ่มขึ้น fora bee จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากน้ำผึ้งและนมผึ้งซึ่งเป็นอาหารเลี้ยงตัวอ่อนผึ้งจึงเต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มีทั้งนมผึ้งสดและบรรจุแคปซูล ล่าสุดนำประโยชน์จากน้ำผึ้งมาทำเครื่องสำอาง ทั้งสบู่ เจลอาบน้ำ ครีมบำรุงผิวและลิปสติก ซึ่งขายดีมาก สร้างมูลค่ารวมกว่า 200-300 ล้านบาทต่อปี
จากน้ำผึ้งพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ fora bee เกือบ 30 ตัว พร้อมกับเปิดตลาดใหม่ๆ ในจีนและตะวันออกกลาง ซึ่งต้องการเงินหมุนเวียนในการขยายธุรกิจโดยเฉพาะการซื้อวัตถุดิบ จึงขอสินเชื่อจากธนาคารและได้รับการสนับสนุนจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.ฉ) เข้ามาช่วยค้ำประกันเพื่อให้ได้สินเชื่อเต็มวงเงินมากขึ้น ด้วยสินเชื่อก้อนนี้ทำให้บริษัทสามารถซื้อน้ำผึ้งจากเกษตรได้มากขึ้น และยังเพิ่มผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้ง ขยายกิจการและส่งน้ำผึ้งไทยไปขายในตลาดโลกได้มากขึ้นด้วย. – สำนักข่าวไทย
