อุบลราชธานี 14 ส.ค.- ชลประทานเร่งเดินเครื่องผลักดันระบายน้ำท่วมชุมชนสองริมฝั่งแม่น้ำมูลในจังหวัดอุบลราชธานีฯ หลังล้นตลิ่งเข้าท่วมนานกว่า 3 สัปดาห์ ล่าสุดแม่น้ำมูลเริ่มทรงตัว
ความคืบหน้าการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 16 ชุด ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมชลประทานนำมาจากลุ่มน้ำก่ำ จ.นครพนม เพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้ว 22 ชุด ที่สะพานข้ามแม่น้ำมูลในอำเภอพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งเสร็จและเริ่มเดินเครื่องเมื่อเย็นวานนี้ (13 ส.ค.) ทำให้สามารถเพิ่มอัตราการการผลักดันน้ำให้ไหลจากแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขง ที่อำเภอโขงเจียมจากเดิมวันละ 250 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็นวันละกว่า 300 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะเดียวกันจะต้องมีการพักเครื่องราว 1 ชั่วโมง พร้อมกำจัดผักตบชวาและกอสวะที่ไหลมาตามน้ำและมาติดที่เครื่องผลักดันน้ำ เพื่อให้เครื่องทำงานได้เต็มที่
อย่างไรก็ดี จากการเร่งผลักดันน้ำ ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำมูลที่รองรับน้ำจากแม่น้ำมูลทางตอนเหนือ และจากแม่น้ำชี ซึ่งล้นตลิ่งไหลท่วมพื้นที่ของจังหวัดเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง โดยระดับน้ำสถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี วันนี้ (14 ส.ค.) อยู่ที่ 8.04 เมตรเท่ากับวานนี้ ขณะที่แม่น้ำโขง สถานีวัดน้ำอำเภอโขงเจียม ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง วันนี้ลดลงจากเมื่อวานอีก 32 เซนติเมตร น้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.10 เมตร ส่งผลดีต่อการระบายน้ำจากแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขง
สำหรับพื้นที่น้ำท่วมในเขตอำเภอเมืองอุบลราชธานีและอำเภอวารินชำราบ รวม 29 ชุมชน ที่ต้องจมอยู่ใต้น้ำ มีประชาชนเดือดร้อนและต้องย้ายมาพักในพื้นที่รองรับชั่วคราว 744 ครัวเรือน จำนวน 2,719 คน คือ อำเภอเมืองอุบลราชธานี เทศบาลนครอุบลราชธานี 257 ครัวเรือน 931 คน และเทศบาลเมืองแจระแม 13 ครัวเรือน 66 คน ส่วนอำเภอวารินชำราบ ที่เทศบาลตำบลบุ่งไหม 223 ครัวเรือน 782 คน ตำบลคำน้ำแซบ 4 ครัวเรือน 14 คน และที่เทศบาลเมืองวารินชำราบ 247 ครัวเรือน 926 คน.-สำนักข่าวไทย