นนทบุรี 14 ส.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์เผยการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-บังกลาเทศ ครั้งที่ 4 หารือแนวทางขยายการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ประสบผลสำเร็จด้วยดี
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี โดยทั้ง 2 ฝ่ายหารือถึงแนวทางพิจารณาการจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับบังกลาเทศ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการหารือภายในประเทศและศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงการค้าเสรี รวมทั้งเห็นพ้องตั้งเป้าขยายการค้าระหว่างกันเป็น 2 เท่า หรือ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2564 และร่วมหารือถึงแนวทางที่จะบรรลุเป้าหมายการค้าดังกล่าว อีกทั้งแนวทางการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมกิจกรรมทางการค้าและการลงทุนผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชน และสนับสนุนบทบาทภาคเอกชนให้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจและเป็นกลไกให้เกิดการค้าการลงทุนร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ฝ่ายบังกลาเทศเชิญชวนนักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในสาขาอาหารแปรรูป ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมเกษตร ยา บริการสุขภาพ และท่องเที่ยว ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเห็นควรผลักดันให้เกิดความร่วมมือด้านการเกษตร ประมง และอุตสาหกรรม ร่วมกัน
ทั้งนี้ นางอภิรดี ยังร่วมลงนามเอ็มโอยูว่าด้วยการซื้อขายข้าวไทย กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอาหารบังกลาเทศ (H.E. Mr. Qamrul Islam) เพื่อขยายโอกาสในการส่งออกข้าวของไทย และสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของบังกลาเทศ ซึ่งการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจของไทยกับบังกลาเทศผ่านกิจกรรมความร่วมมือและการริเริ่มความสัมพันธ์ต่าง ๆ ร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชนจะช่วยให้ไทยสามารถขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในตลาดบังกลาเทศได้อย่างยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันทางเศรษฐกิจ
สำหรับบังกลาเทศเป็นตลาดที่มีศักยภาพมีประชากรกว่า 160 ล้านคน มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ และมีศักยภาพเป็น Gateway สู่ประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ และประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ที่มีสมาชิกกว่า 57 รัฐ เช่น อียิปต์ บาห์เรน กาตาร์ อิหร่าน อิรัก จอร์แดน โมร็อกโก ซาอุดีอาระเบีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน มัลดีฟส์ และตุรกี เป็นต้น ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาบังกลาเทศมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยสูงกว่าร้อยละ 6
ปัจจุบันบังกลาเทศเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ รองจากอินเดียและปากีสถาน ปี 2559 มีมูลค่าการค้ารวมประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 10.38 แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 940 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไทยได้ดุลการค้าบังกลาเทศตลอด ทั้งนี้ สินค้าเป้าหมายของไทยในบังกลาเทศ ได้แก่ อาหาร เครื่องจักรกล เครื่องจักรกลการเกษตร อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อุตสาหกรรมเกษตร เคมีภัณฑ์ ปูนซีเมนต์ เหล็ก ส่วนสาขาที่ไทยมีศักยภาพเข้าไปลงทุน ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมเกษตรและแปรรูปสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโรงแรม บริการก่อสร้าง และบริการโลจิสติกส์
สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปบังกลาเทศ (ปี 2559) ได้แก่ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ปูนซิเมนต์ ผ้าผืน เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เส้นใยประดิษฐ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว และสินค้านำเข้าที่สำคัญของไทยจากบังกลาเทศ ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ด้ายและเส้นใย เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ.-สำนักข่าวไทย