นครศรีธรรมราช 11 ส.ค.-จับแล้ว “บิว โพธิ์เสด็จ” หัวโจกแหกห้องขังนครศรีธรรมราช เพื่อนอีกคนโดนด้วย ตำรวจล่าอีก 2
กรณีผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วยนายยามีน จันทร์อุทัย อายุ 19 ปี นายเฉลิมพล จันทร์ยัง อายุ 27 ปี นายสันติ ชนะชัย อายุ 28 ปี และนายพงศ์พันธ์ โภคะสวัสดิ์ อายุ 37 ปี ซึ่ง 1 ใน 4 คือนายสันติ หรือบิว โพธิ์เสด็จ นั้นเป็นผู้ต้องหาอุกฉกรรจ์และอันตราย ได้แหกห้องขังบน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา โดยอาศัยช่วงที่สิบเวรควบคุมผู้ต้องหา 1 คนมาคุมขัง ปรากฏว่าทั้ง 4 ได้ดันประตูห้องจนสิบเวรหงายหลังแล้วพากันวิ่งหลบหนีไปกับความมืดนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งล่าผู้ต้องหาคดียาเสพติดทั้ง 4 คน จนในที่สุด พ.ต.ท.ธีรพล พุ่มพิชัย สวป.สภ.เมือง ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวนายยามีน จันทร์อุทัย อายุ 19 ปี 1 ใน 4 ซึ่งหลบหนีไปกบดานอยู่ท้องที่ อ.ท่าศาลา ขณะที่กำลังจะขึ้นรถโดยสารเพื่อหลบหนีต่อ จากนั้นจึงควบคุมตัวไปทำการสอบปากคำที่ สภ.เมือง ระบุว่า เห็นเพื่อนหนีก็หนีด้วย ก่อนไปกบดานที่บ้านญาติและโดนจับกุม
ต่อมาในช่วงเย็นของวันนี้ (11 ส.ค.60) พ.ต.ท.ธีรพล พุ่มพิชัย สวป.สภ.เมือง รับแจ้งว่านายสันติ ชนะชัย หรือบิว โพธิ์เสด็จ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหารายสำคัญมีคดีติดตัวหลายคดี หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านเพื่อนท้องที่หมู่ 8 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมก่อนเข้าจู่โจมจับกุมตัวนายสันติ ได้โดยละม่อม ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนั้น นายสันติ พยายามดิ้นขัดขืน แต่สู้กำลังตำรวจที่มากันหลายสิบนายไม่ได้ จึงจำยอมให้จับกุมแต่โดยดี ก่อนถูกควบคุมตัวไปสอบสวน
โดยการสอบปากคำนายสันติ ให้การว่า เพื่อนในกลุ่มที่หลบหนีได้ชักชวน จึงได้หลบหนีจากห้องขังด้วย เพราะเห็นว่าตำรวจอยู่เวรไม่กี่คน และขณะที่สิบเวรควบคุมตัวผู้ต้องหารายหนึ่งมาคุมขังในห้องขัง จึงถือโอกาสขณะที่กำลังไขกุญแจช่วยกันผลักประตูห้องขังจนสิบเวรคนนั้นกระเด็นหงายหลัง จากนั้นพากันวิ่งหนี กระทั่งมาโดนจับกุมในที่สุด ขณะตำรวจได้แจ้งข้อหาหลบหนีการควบคุมในที่คุมขังของเจ้าพนักงานเพิ่มอีกคดี ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 2 คนคือนายเฉลิมพล และนายพงศ์พันธ์ คาดว่าจะได้ตัวเร็วในเร็วๆ นี้ ซึ่งตำรวจพอจะทราบเบาะแสในเบื้องต้นแล้ว
เหตุผู้ต้องหาแหกห้องขังครั้งนี้ ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เวรยามประจำสถานีตำรวจในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ทำบันทึกรายงานข้อเท็จจริงในพฤติการณ์หลบหนีของผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ซึ่งหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามวินัยของตำรวจต่อไป.-สำนักข่าวไทย