นายกฯ เปิดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน-บางซื่อ

สถานีรถไฟฟ้าเตาปูน 11 ส.ค. – นายกฯ เปิดโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วง เตาปูน-บางซื่อ ย้ำ รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งทั้งระบบ พร้อมฝากให้เตรียมแผนเผชิญเหตุ ป้องกันปัญหาในอดีต เผย มีแนวคิดสร้าง โมโนเรลแก้ปัญหาจราจร


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ภายใต้แนวคิด “ร่วมใจ เชื่อมสุข เพื่อประชาชน”  มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ คณะผู้บริหาร รฟม. เข้าร่วมในพิธี

โอกาสนี้  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เส้นทางส่วนเชื่อมต่อขยาย ถือเป็นหนึ่งในในการปฎิรูปประเทศ ด้านการลดความเหลื่อมล้ำ และการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนของประเทศ ซึ่งรัฐบาลจะต้องดูแลประชาชนทุกกลุ่ม ทุกด้าน โดยเฉพาะการทำให้ประชาชนมีรายได้เพียงพอ เพื่อให้สามารถใช้บริการขนส่งที่ทันสมัย   


“ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจการเร่งพัฒนาระบบขนส่งมวลชนของรัฐบาล ที่เป็นไปเพื่อการแก้ปัญหาทั้งในอดีต และวางแนวทางพัฒนาในอนาคต  บางครั้งจะต้องไม่มองเพียงมิติของกำไรหรือขาดทุนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองถึงคุณค่า และประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  โดยเฉพาะการสร้างและกระจายรายได้ รวมถึงการขยายเมืองใหม่ไปทั่วประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในอนาคตมีแนวคิดที่จะให้มีการสร้างรถไฟรางเดี่ยว หรือ โมโนเรล ในแนวฝั่งตะวันตกและตะวันออก โดยเฉพาะในเส้นทางจราจรที่ติดขัด เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และช่วยลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน พร้อมทั้งสั่งการให้กระทรวงคมนาคมเชื่อมต่อระบบขนส่งทั้งระบบ ทั้งทางราง รถไฟ รถโดยสาร ให้มีความต่อเนื่องและเป็นระเบียบ


“ยืนยันว่า รัฐบาลจะตรวจสอบทุกโครงการอย่างโปร่งใส เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ เพื่อนำไปสู่การเชื่อมโยงทางกายภาพ และการไปมาหาสู่ของประชาชน  ซึ่งถือเป็นการปฎิรูปด้านการขนส่งมวลชน ที่จะเป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยการเชื่อมโยงแต่ละเส้นทาง จะต้องผนวกกันให้ได้ในปี 2563  เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทางของประชาชน และคาดว่า หากสามารถพัฒนาระบบขนส่งมวลชนได้แล้วเสร็จทั้งหมด ก็จะทำให้ราคาค่าใช้บริการลดลงได้ในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรียังฝากไปยังภาคเอกชน ให้ช่วยลดราคาค่าบริการต่างๆ แม้จะทราบดีว่า ภาคเอกชนจะต้องดำเนินธุรกิจให้ได้ผลกำไร แต่ต้องการให้นึกถึงประชาชนในช่วงเปลี่ยนผ่าน ที่จะทำให้ประเทศเกิดการพัฒนา  และผลประโยชน์จะกลับมาสู่ทุกภาคส่วน รวมถึง ภาคเอกชน 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังฝากให้เตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุ หากเกิดเหตุขัดข้องระหว่างวัน เพื่อให้การดูแลและช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และต้องไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

นายกรัฐมตรี ได้อวยพรให้ทุกคนมีความสุข เดินทางอย่างปลอดภัยสุขภาพแข็งแรง ในช่วงวันมหามงคล 12  สิงหาคม หรือ วันแม่แห่งชาติ และเมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม ก็เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรากูร ซึ่งทั้ง 2 พระองค์ได้พระราชทานความห่วงใยในทุกๆเรื่อง  และรัฐบาลได้นำพระราโชบายมาปฎิบัติอย่างต่อเนื่อง 

“ขอให้ทุกคนยึดมั่นในหลักชัยของประเทศ คือชาติ ศาสนา พระมหากษัริย์  และในส่วนของรัฐบาล ก็จะเพิ่มเติมในส่วนของประชาชน ที่เป็นหัวใจหลักในการทำงานของรัฐบาล  ผมคิดนโยบายทุกวัน เพื่อประชาชนและทุกคน  หัวหน้างานต้องคิดทำ เพื่อประชาชนจะได้เป็นกุศล” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ส่วนตัวแบกรับในหลายเรื่อง แต่ไม่เคยกลัว เพราะทำเพื่อชาติและประชาชน และหวังว่า กุศลที่สร้างและสิ่งที่ทำ จะช่วยปกป้องตนในวันข้างหน้า เพราะคงไม่มีใครช่วยตนได้อยู่แล้ว   สิ่งต่างๆ ที่ตนต้องพูด เพราะจำเป็นต้องสยบความขัดแย้งให้ได้ เพราะยังมีความขัดแย้งกันอยู่ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การปฏิรูปจำเป็นต้องทำตั้งแต่วันนี้ แต่บางคนกลับบอกไม่ต้องใช้กฎหมาย ซึ่งเดิมมีกฎหมาย แต่บังคับใช้ไม่ได้ ดังนั้น ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เอาแต่สบายไม่ได้ เพราะทำให้การปฏิรูปมีปัญหา จึงจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่งไม่ได้ทำเพื่อตัวเองหรือผลประโยชน์ของใคร 

“ทุกคนต้องการสิทธิเสรีภาพ แต่ไม่สนใจอย่างอื่น ซึ่งรัฐบาลนี้ยอมไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย และคดีความขึ้นกับศาลและกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่เรื่องของผม เพราะผมไม่ใช่เปาบุ้นจิ้น ดังนั้น ผิดถูกก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทำพิธีเปิดเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ร่วมโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จากสถานีเตาปูน ไปตามทางวิ่งลดระดับลอดอุโมงค์ที่สถานีบางซื่อ และเดินทางต่อเนื่องไปยังสถานีกำแพงเพชร  จากนั้นเดินทางโดยรถยนต์ ไปยังสถานีสนามไชย เพื่อเยี่ยมชมโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ก่อนจะนั่งรถราง ลอดอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้แม่น้ำเจ้าพระยา จากสถานีสนามไชยไปยังสถานีอิสรภาพ เพื่อเชื่อมชมความคืบหน้าการออกแบบตกแต่ง สถาปัตยกรรม ภายในของสถานีรถไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง 

ทั้งนี้  โครงการรถไฟฟ้าสายน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงเตาปูน-บางซื่อ เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูนของรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) และสถานีบางซื่อของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) มีระยะทาง ประมาณ 1.2 กิโลเมตร  เพื่อให้สามารถย่นระยะเวลาการเดินทางช่วงเตาปูนถึงบางซื่อ เหลือประมาณ 2 นาที ซึ่งผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนระบบขบวนรถ ที่สถานีเตาปูน และจ่ายค่าเข้าระบบเพียงครั้งเดียว สำหรับผู้ถือบัตรโดยสาร MRT และ MRT PLUS นอกจากนี้ รฟม.ยังคงอัตราค่าโดยสารของสายฉลองรัชธรรมตามโปรโมชั่นเดิม จนถึง 31 มกราคม 2561 คือ 14-29 บาท ในวันทำงาน และ 15 บาท ตลอดสายในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ มีนะยะทางรวมประมาณ 27 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นสองช่วง คือหัวลำโพง-บางแค แระกอบด้วย โครงสร้างทางวิ่งใต้ดิน ระยะทาง5 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน 4 สถานี  และทางวิ่งยกระดับ 9 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้ายกระดับ 7 สถานี ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ มีทางวิ่งยกระดับทั้งหมด 13 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้าจำรวน 8 สถานี  คาดว่าจะสามารถเปิดเดินรถ ช่วงหัวลำโพง-บางแค ได้ในปี 2562 และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ในปี 2563         .- สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]