นายกฯ เปิดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน-บางซื่อ

สถานีรถไฟฟ้าเตาปูน 11 ส.ค. – นายกฯ เปิดโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วง เตาปูน-บางซื่อ ย้ำ รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งทั้งระบบ พร้อมฝากให้เตรียมแผนเผชิญเหตุ ป้องกันปัญหาในอดีต เผย มีแนวคิดสร้าง โมโนเรลแก้ปัญหาจราจร


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ภายใต้แนวคิด “ร่วมใจ เชื่อมสุข เพื่อประชาชน”  มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ คณะผู้บริหาร รฟม. เข้าร่วมในพิธี

โอกาสนี้  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เส้นทางส่วนเชื่อมต่อขยาย ถือเป็นหนึ่งในในการปฎิรูปประเทศ ด้านการลดความเหลื่อมล้ำ และการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนของประเทศ ซึ่งรัฐบาลจะต้องดูแลประชาชนทุกกลุ่ม ทุกด้าน โดยเฉพาะการทำให้ประชาชนมีรายได้เพียงพอ เพื่อให้สามารถใช้บริการขนส่งที่ทันสมัย   


“ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจการเร่งพัฒนาระบบขนส่งมวลชนของรัฐบาล ที่เป็นไปเพื่อการแก้ปัญหาทั้งในอดีต และวางแนวทางพัฒนาในอนาคต  บางครั้งจะต้องไม่มองเพียงมิติของกำไรหรือขาดทุนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองถึงคุณค่า และประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  โดยเฉพาะการสร้างและกระจายรายได้ รวมถึงการขยายเมืองใหม่ไปทั่วประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในอนาคตมีแนวคิดที่จะให้มีการสร้างรถไฟรางเดี่ยว หรือ โมโนเรล ในแนวฝั่งตะวันตกและตะวันออก โดยเฉพาะในเส้นทางจราจรที่ติดขัด เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และช่วยลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน พร้อมทั้งสั่งการให้กระทรวงคมนาคมเชื่อมต่อระบบขนส่งทั้งระบบ ทั้งทางราง รถไฟ รถโดยสาร ให้มีความต่อเนื่องและเป็นระเบียบ


“ยืนยันว่า รัฐบาลจะตรวจสอบทุกโครงการอย่างโปร่งใส เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ เพื่อนำไปสู่การเชื่อมโยงทางกายภาพ และการไปมาหาสู่ของประชาชน  ซึ่งถือเป็นการปฎิรูปด้านการขนส่งมวลชน ที่จะเป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยการเชื่อมโยงแต่ละเส้นทาง จะต้องผนวกกันให้ได้ในปี 2563  เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทางของประชาชน และคาดว่า หากสามารถพัฒนาระบบขนส่งมวลชนได้แล้วเสร็จทั้งหมด ก็จะทำให้ราคาค่าใช้บริการลดลงได้ในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรียังฝากไปยังภาคเอกชน ให้ช่วยลดราคาค่าบริการต่างๆ แม้จะทราบดีว่า ภาคเอกชนจะต้องดำเนินธุรกิจให้ได้ผลกำไร แต่ต้องการให้นึกถึงประชาชนในช่วงเปลี่ยนผ่าน ที่จะทำให้ประเทศเกิดการพัฒนา  และผลประโยชน์จะกลับมาสู่ทุกภาคส่วน รวมถึง ภาคเอกชน 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังฝากให้เตรียมพร้อมแผนเผชิญเหตุ หากเกิดเหตุขัดข้องระหว่างวัน เพื่อให้การดูแลและช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และต้องไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

นายกรัฐมตรี ได้อวยพรให้ทุกคนมีความสุข เดินทางอย่างปลอดภัยสุขภาพแข็งแรง ในช่วงวันมหามงคล 12  สิงหาคม หรือ วันแม่แห่งชาติ และเมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม ก็เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรากูร ซึ่งทั้ง 2 พระองค์ได้พระราชทานความห่วงใยในทุกๆเรื่อง  และรัฐบาลได้นำพระราโชบายมาปฎิบัติอย่างต่อเนื่อง 

“ขอให้ทุกคนยึดมั่นในหลักชัยของประเทศ คือชาติ ศาสนา พระมหากษัริย์  และในส่วนของรัฐบาล ก็จะเพิ่มเติมในส่วนของประชาชน ที่เป็นหัวใจหลักในการทำงานของรัฐบาล  ผมคิดนโยบายทุกวัน เพื่อประชาชนและทุกคน  หัวหน้างานต้องคิดทำ เพื่อประชาชนจะได้เป็นกุศล” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ส่วนตัวแบกรับในหลายเรื่อง แต่ไม่เคยกลัว เพราะทำเพื่อชาติและประชาชน และหวังว่า กุศลที่สร้างและสิ่งที่ทำ จะช่วยปกป้องตนในวันข้างหน้า เพราะคงไม่มีใครช่วยตนได้อยู่แล้ว   สิ่งต่างๆ ที่ตนต้องพูด เพราะจำเป็นต้องสยบความขัดแย้งให้ได้ เพราะยังมีความขัดแย้งกันอยู่ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การปฏิรูปจำเป็นต้องทำตั้งแต่วันนี้ แต่บางคนกลับบอกไม่ต้องใช้กฎหมาย ซึ่งเดิมมีกฎหมาย แต่บังคับใช้ไม่ได้ ดังนั้น ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เอาแต่สบายไม่ได้ เพราะทำให้การปฏิรูปมีปัญหา จึงจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่งไม่ได้ทำเพื่อตัวเองหรือผลประโยชน์ของใคร 

“ทุกคนต้องการสิทธิเสรีภาพ แต่ไม่สนใจอย่างอื่น ซึ่งรัฐบาลนี้ยอมไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย และคดีความขึ้นกับศาลและกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่เรื่องของผม เพราะผมไม่ใช่เปาบุ้นจิ้น ดังนั้น ผิดถูกก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทำพิธีเปิดเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ร่วมโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จากสถานีเตาปูน ไปตามทางวิ่งลดระดับลอดอุโมงค์ที่สถานีบางซื่อ และเดินทางต่อเนื่องไปยังสถานีกำแพงเพชร  จากนั้นเดินทางโดยรถยนต์ ไปยังสถานีสนามไชย เพื่อเยี่ยมชมโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ก่อนจะนั่งรถราง ลอดอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้แม่น้ำเจ้าพระยา จากสถานีสนามไชยไปยังสถานีอิสรภาพ เพื่อเชื่อมชมความคืบหน้าการออกแบบตกแต่ง สถาปัตยกรรม ภายในของสถานีรถไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง 

ทั้งนี้  โครงการรถไฟฟ้าสายน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงเตาปูน-บางซื่อ เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูนของรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) และสถานีบางซื่อของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) มีระยะทาง ประมาณ 1.2 กิโลเมตร  เพื่อให้สามารถย่นระยะเวลาการเดินทางช่วงเตาปูนถึงบางซื่อ เหลือประมาณ 2 นาที ซึ่งผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนระบบขบวนรถ ที่สถานีเตาปูน และจ่ายค่าเข้าระบบเพียงครั้งเดียว สำหรับผู้ถือบัตรโดยสาร MRT และ MRT PLUS นอกจากนี้ รฟม.ยังคงอัตราค่าโดยสารของสายฉลองรัชธรรมตามโปรโมชั่นเดิม จนถึง 31 มกราคม 2561 คือ 14-29 บาท ในวันทำงาน และ 15 บาท ตลอดสายในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ มีนะยะทางรวมประมาณ 27 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นสองช่วง คือหัวลำโพง-บางแค แระกอบด้วย โครงสร้างทางวิ่งใต้ดิน ระยะทาง5 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน 4 สถานี  และทางวิ่งยกระดับ 9 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้ายกระดับ 7 สถานี ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ มีทางวิ่งยกระดับทั้งหมด 13 กิโลเมตร มีสถานีรถไฟฟ้าจำรวน 8 สถานี  คาดว่าจะสามารถเปิดเดินรถ ช่วงหัวลำโพง-บางแค ได้ในปี 2562 และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ในปี 2563         .- สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย