ดีเอสไอ 11 ส.ค.ดีเอสไอจับ บริษัทแชร์ลูกโซ่ คอร์สสัมมนา เสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท
พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดี พิเศษ และรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พร้อมด้วย พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ร่วมแถลงข่าวดำเนินการกับ บริษัท เดอะ ซิสเต็ม ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ จำกัด และการจับกุมนาย ภูดิศ กิตติธราดิลก กรรมการผู้มีอำนาจ ซึ่งมี พฤติกรรมหลอกลวงให้ประชาชนมาร่วมลงทุนซื้อแพ็คเกจคอร์สสัมมนา โดยสัญญาว่าจะจ่ายเงินค่าตอบแทนในอัตราสูงทำให้ประชาชนหลงชื่อจำนวนมากโดยมีผู้เสียหาย 4,000 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท และดีเอสไอได้รับคดีนี้ไว้เป็นคดีพิเศษแล้วด้วย
พันตำรวจโท พเยาว์ กล่าวว่า ดีเอสไอสืบสวนหลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้เสียหายจำนวนมากว่า ถูกหลอกลวงโดยการประกาศโฆษณาชักชวน ผ่านสื่อโซเซี่ยลมีเดีย ต่างๆ อาทิ แอปพลิเคชันไลน์ และเฟซบุ๊กให้ร่วมลงทุนซื้อแพ็คเกจคอร์สสัมมนา หลักสูตรความรู้ทางการเงินฯ กับ บริษัท “เดอะ ซิสเต็ม ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ จำกัด” และ “บริษัท อินโนวิชั่น โฮลดิ้ง จำกัด” ที่มีนายภูดิศ กิตติธราดิลก เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ โดยแบ่งการลงทุนเป็น 5 แพคเกจ เริ่มตั้งแต่ 4,500- 108,000 บาท โดยอ้างว่าจะนำเงินลงทุนของผู้เสียหายไปลงทุนในตลาด Forex (การซื้อขายเงินตรา) โดยตกลงจะจ่ายผลตอบแทนการลงทุนในอัตราร้อยละ 7 ต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 ปี หรือ 52สัปดาห์ หรือคิดรวมเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 364 ต่อปี
นอกจากนี้ยังพบว่า นายภูดิศ ได้แจ้งต่อ ผู้ลงทุนคนใดสามารถแนะนำบุคคลอื่นให้มาร่วมลงทุนด้วยก็จะได้รับเงินตอบแทนค่าแนะนำตามลำดับชั้นเพิ่มอีกตั้งแต่ ร้อยละ 0.5 ถึงร้อยละ 5 ปรากฏว่าได้มีผู้เสียหายจำนวนมาก หลงเชื่อและโอนเงินร่วมลงทุน ซึ่งในช่วงแรกๆ ผู้เสียหายก็ได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนด แต่ภายหลังพบว่าผู้เสียหายเริ่มไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลง จนกระทั่งที่สุด บริษัทฯ ดังกล่าว ซึ่งได้เช่าอาคารฟอรั่ม ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง เป็นที่ตั้งสำนักงานนั้นได้ปิดกิจการลง และ นายภูดิศก็ได้หลบหนีไป รวมมูลค่าความเสียหายจากผู้ที่ตกเป็นเหยื่อทั่วประเทศกว่า 4,000 คน ความเสียหายประมาณ 2,000 ล้านบาท
ล่าสุด ด่านตรวจคนเข้าเมือง สนามบินดอนเมือง สามารถจับกุมนายภูดิศ หลังเดินทางกลับมายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผานมา จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง รับตัวไว้ดำเนินคดี ซึ่งดีเอสไอจะได้ติดต่อประสานพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล ห้วยขวาง เพื่อขอรับโอนสำนวนการสอบสวนมาสอบสวนเป็นคดีพิเศษต่อไป รวมทั้จะตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียหายกลับมาด้วย
“อยากฝากถึงประชาชนทุกคน ไม่ว่าใครจะมาเสนอให้ลงทุนในธุรกิจ หรือสินค้าใด โดยอ้างผลตอบแทนจำนวนมาก อย่างในกรณีคอร์สสัมนานี้ที่บอกจะให้ดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่ออาทิตย์คำนวน 1 ปี จะได้ ร้อยละ 364 ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะตามกฎหมายอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะได้แค่เต็มที่ร้อยละ 7 ต่อปี และถ้ามีจริง ไม่มีไครมาป่าวประกาศบอกคนทั่วทั้งประเทศให้มาลงทุนแบบนี้ เค้าเก็บไว้ทำคนเดียว รวยคนเดียวไม่ดีกว่าเหรอ อยากให้ประชาชนใช้สติอย่าให้ความโลภเข้าครอบงำ”พันตำรวจโท พเยาว์ กล่าว
นอกจากนี้ พันตำรวจโท พเยาว์ ยังกล่าวว่า พบข้อมูลว่ามีธุรกิจในลักษณะเดียวกันกำลังดำเนินการอยู่อีก 3-4 ธุรกิจ คาดว่าไม่เกินปลายปีนี้ น่าจะมีผู้เสียหายอีกหลายพันคนมาร้องเรียนที่ดีเอสไอให้ช่วยเหลืออย่างแน่นอน ซึ่งดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบเพื่อไม่ให้ประชาชนหลงตกเป็นเหยื่อ และย้ำอย่าเห็นแก่ได้จนลืมพิจรณาความเป็นจริง.-สำนักข่าวไทย