กรุงเทพฯ 10 ส.ค.-หลังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำ “ลิงอ้วนบางขุนเทียน” ไปตรวจหาโรค และดูแลควบคุมอาหาร นานกว่า 3 เดือน จนน้ำหนักลงเกือบ 3 กิโลกรัม และมีสุขภาพแข็งแรง ถึงเวลาแล้วที่ต้องปล่อยลิงอ้วนคืนสู่ธรรมชาติ
เสียงปรบมือแสดงความดีใจ ที่ลิงอ้วนกลับถิ่นกำเนิดบางขุนเทียนอีกครั้ง วินาทีแรกที่ลิงอ้วนก้าวเท้าออกจากกรงสี่เหลี่ยมที่ขนมา ได้ส่งเสียงทักทาย แสดงท่าทีอยากออกไปหาฝูงลิงที่วิ่งวนเวียนอยู่นอกกรงเป็นจำนวนมาก แต่ลิงอ้วนยังต้องถูกกักกรงขนาดใหญ่อีก 1 สัปดาห์ เพื่อปรับตัว ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
ตลอดกว่า 3 เดือน ที่ลิงอ้วนอยู่ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผลตรวจสุขภาพไม่พบโรคร้าย แต่เป็นโรคทุพโภชนาการ ที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ที่หยิบยื่นอาหารไร้ประโยชน์ให้ ลิงอ้วนถูกควบคุมน้ำหนัก ปรับสูตรอาหาร เหลือเป็นวันละ 2 มื้อ ไม่เกิน 400 กรัม/มื้อ จนน้ำหนักลงเกือบ 3 กิโลกรัม เหลือ 24 กิโลกรัม จากเดิม 27 กิโลกรัม หน้าท้องเล็กลง ลดการเสียดสีกับพื้น
แม้ลิงอ้วนมีร่างกายแข็งแรง แต่ต้องให้กินอาหารจากธรรมชาติ ไม่หวาน ไม่มีไขมันสูง ห้ามขนมกรุบกรอบ เพื่อสุขภาพที่ดีของลิงอ้วน และลิงแสมตัวอื่นๆ ที่อาจเสี่ยงเป็นโรคลงพุง โดยปกติลิงจะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 10-15 กิโลกรัม
ย่านบางขุนเทียนมีลิงแสมอาศัยอยู่เกือบ 600 ตัว สำนักงานเขตบางขุนเทียนติดประกาศขอความร่วมมืองดให้อาหารไร้ประโยชน์กับลิง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียน
ลิงแสม เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ปี 2535 ลักษณะนิสัยหากินเองตามธรรมชาติ ไม่ควรเข้าใกล้ เนื่องจากสัตว์ป่ามีสัญชาตญาณป้องกันตัว พวกเขาอาจทำร้ายโดยไม่ตั้งใจ เพื่อความสมดุลของสัตว์ป่า มนุษย์ควรเรียนรู้พฤติกรรมสัตว์ ก่อนที่ความเมตตากลายเป็นความมักง่าย ย้อนกลับไปทำร้ายลิงเหล่านี้.-สำนักข่าวไทย